“บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดฟันด์โฟลว์หนุนตลาด แนะ BEC-JMT

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีทดสอบแนวต้าน 1,673 – 1,680 จุด แรงหนุนฟันด์โฟลว์ ส่วนแนวรับ 1,655 จุด แนะทยอยซื้อกลุ่มธนาคาร KBANK, BBL, TTB, TISCO ไฟแนนซ์ SAWAD, MTC, KTC กลุ่มอีวี EA, GPSC, TRU ซ่อมบ้าน HMPRO, GLOBAL ด้านหุ้นเด่นวันนี้เสิร์ฟ BEC-JMT

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,655 จุด ยืนได้ถือพอร์ต มีแนวต้าน 1,673 – 1,680 จุด โดยดัชนีได้แรงหนุนจาก Fund Flow แนะนำทยอยซื้อกลุ่มธนาคาร KBANK, BBL, TTB, TISCO ไฟแนนซ์ SAWAD, MTC, KTC กลุ่มอีวี EA, GPSC, TRU ซ่อมบ้าน HMPRO, GLOBAL

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐDJIA +0.71%,S&P500 +1.06%,Nasdaq +1.27%ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ, กลุ่มเทคโนโลยี Apple +3.85% รับเปิดตัว Iphone 14 ตลาดรอรายงาน US CPI ส.ค. คาดชะลอตัว +8.1%&ก.ค. +8.5% YoY , ส.ค. -0.1% &ก.ค. 0% MoM เป็นตัวเลขที่เฟดใช้พิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 21 ก.ย. คาดมีชะลออัตราปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะถัดไป

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.76% กลุ่มค้าปลีก +4.5%, ธนาคาร +3.4% หลัง ECB ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ส่วนสถานการณ์รัสเซีย – ยูเครนสามารถยืดคืนดินแดนบางส่วนคืนจากรัสเซีย ช่วยลดความกังวลวิกฤตพลังงาน

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BEC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 15.70 บาท) ทั้งนี้จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ ส่งผลให้ยอดโฆษณารวม 7M65 ที่ +6%YoY และสัดส่วนของ TV ยังครองสัดส่วนสูงสุดราว 64% ดังนั้นจึงคาดแนวโน้มผลประกอบการ 2H65 ของ BEC น่าจะเติบโต HoH แม้ระยะสั้นมีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อ ทำให้ยังไม่สามารถปรับเพิ่มอัตราค่าโฆษณาได้ แต่จะเห็น Utilization Rate ปรับตัวดีขึ้นใน 3Q65 และเร่งตัวขึ้นใน 4Q65 โดยบริษัทจะปรับผังรายการและทยอยเพิ่มการออกอากาศละครใหม่ เพิ่มการขาย Content Licensing ต่างประเทศ ทั้งทาง Netflix และ VIU และเพิ่มผู้ใช้งาน App 3+

นอกจากนี้คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการวัด Rating ใหม่ของ Nielsen แบบ Cross Platform ที่จะใช้เต็มรูปแบบต้นปีหน้า เนื่องจากมีสื่อที่ครอบคลุมหลาย platform และมี content ที่แข็งแกร่ง

หุ้น JMT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 93.00 บาท) กลุ่มธุรกิจบริหารหนี้รับประโยชน์จากปริมาณ NPL ในระบบที่อยู่ระดับสูง โดย ณ สิ้น 2Q65 NPL ของธนาคารพาณิชย์ อยู่ที่ 527.9 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ 2.88% ขณะที่คาดว่าผลประกอบการของ JMT ในปีนี้จะยังคงได้ปัจจัยบวกจากการเติบโตพอร์ตหนี้เสีย โดย พอร์ตหนี้ของ JMT ขยายตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 245,320 ล้านบาท ณ สิ้น 2Q65 (เพิ่มจาก ณ สิ้น 4Q64 ที่ 238,212 ล้านบาท)

นอกจากนี้ JMT ยังมีปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานเพิ่มเติมในปีนี้จากการทำ JV กับ KBANK ในส่วนของธุรกิจ AMC คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงเดือนก.ย. 65 ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี65 และ ปี66 ของ JMT จะยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปี 64 ที่ 1.29 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 1.51 บาท/หุ้น, และ 2.14 บาท/หุ้น ตามลำดับ