ฟันด์โฟลว์เข้าอาเซียนแหล่งลงทุนปลอดภัย ‘กอบศักดิ์’เตือนอย่าชะล่าใจ ปัจจัยเสี่ยงอื้อ

HoonSmart.com>>ทั่วโลกมองตลาดหุ้นอาเซียนแหล่งลงทุนปลอดภัย ไทยมีปัจจัยหนุนเพียบ บจ.เด่น จากกำไรโต-งบแข็งแกร่ง คาดปีนี้นักท่องเที่ยวกลับมาเกิน 10 ล้านคน “กอบศักดิ์”คาดตลาดยังคงผันผวน เตือนรับมือเงินไหลออก เพราะตลาดคาดการปรับดอกเบี้ยของเฟดต่ำเกินไป ยกสถิติรอบนี้มีโอกาสถึง 5% ไม่ใช่ 3% แช่สูงอีกนาน 6-12 เดือน ดีต่อตลาดพัฒนาแล้ว เผยผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่น 3 เดือน”ทรงตัว” ต่างชาติ-สถาบันไทยชอบแบงก์ 

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า แนวโน้มเงินทุนไหลเข้าลงทุนในอาเซียนรวมถึงไทย ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกพูดกันว่า อาเซียนเป็นหนึ่งแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย (safe haven) ไทยยังไปได้ เมื่อดูดัชนีต่าง ๆ ในปีนี้ จนถึงส.ค. หุ้นไทยยังคงให้ผลตอบแทนที่ดี เมื่อเทียบกับหลายตลาด คือติดลบเพียง 1.1%

เฉพาะส.ค.ขึ้นมามากถึง 4% นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 57,014 ล้านบาท รวมตั้งแต่ต้นปี 2565 มูลค่า 170,743.71 ล้านบาท และราคาหุ้นก็ใช่ได้ P/E อยู่ที่ 16.5 เท่า อยู่ในจุดที่ดี ทั้งนี้นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งมากสุด 10% เศษ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์สูงสุดในช่วงผันผวน ตามด้วยราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 9%

ปัจจัยหนุนของไทยมาจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว คาดปีนี้มีโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามามากกว่า 10 ล้านคน วันที่ 1-17 ส.ค.เข้ามาแล้ว  629,906 คน  ถึงปัจจุบันรวม 3.78 ล้านคน  เทียบกับปีก่อนเข้ามาเพียง 427,870 คน และ ปี 2563 จำนวน 39.92 ล้านคน  รวมถึงเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ฟื้นตัว บจ.มีจุดเด่น ทั้งกำไรเติบโตมากในครึ่งปีแรกและงบดุลแข็งแรง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน และรักษาเงินต้น เตรียมเงินสดไว้ลงทุน ปัจจัยเสี่ยงรออยู่ข้างหน้า ตอนนี้ตลาดยังคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่ำเกินไป คือ 3% เศษ จากสถิติที่ผ่านมา เฟดขึ้นดอกเบี้ย 2 รอบที่ผ่านมา ปี 2027 และ 2000 สู้เงินเฟ้อที่ 4% ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5.25% และ 6% แต่ตอนนี้เงินเฟ้ออยู่ที่ 8% ดังนั้นดอกเบี้ยที่ตลาดคาดไม่เพียงพออย่างน้อยจะเห็นดอกเบี้ย 4.5-5% และเมื่อขึ้นดอกเบี้ยถึงจุดเหมาะสมแล้วจะคงอยู่ระดับสูงอีก 6-12 เดือน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้

“ปีนี้การลงทุนไม่ง่าย ปัญหาตอนนี้ดอกเบี้ยจะปรับขึ้นไปถึงเท่าไร หากตลาดพูดถึง 5% ตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรจะต้องลงอีกระลอก คาดว่าความผันผวนจะต้องใช้เวลา 1-2 ปี เมื่อเฟดขึ้นดอกเบี้ยเยอะ แก้เงินเฟ้อได้ ตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วจะดี แต่ตลาดเกิดใหม่จะไม่ดี นักลงทุนต่างชาติต้องหมุนเงินออกไปหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี แต่หากสถานการณ์กลับมาปกติแล้ว จะสร้างโอกาสในการลงทุนมหาศาล ดังนั้นนักลงทุนที่เคยตัดสินใจผิดทาง ขาดทุนไปแล้ว เริ่มต้นใหม่ อย่าถอดใจ จะต้องรักษาเงินต้น และมีเงินสดให้พร้อม ส่วนการลงทุนช่วงนี้เป็นเพียงการลงทุนสั้น ๆเท่านั้น” นายกอบศักดิ์กล่าว

ประธานกรรมการ FETCO  เปิดเผยถึงผลดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 116.59 เพิ่มขึ้น 12.2% จากเดือนก่อนหน้ายังคงอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” นักลงทุนมองว่าการฟื้นต้วของภาคท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าของเงินทุน และนโยบายการเงินของเฟด  สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 รองลงมาคือ นโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและการไหลออกของเงินทุน

นักลงทุนสนใจลงทุนในหมวดธนาคารมากที่สุด รองลงมาคือหมวดท่องเที่ยวและสันทนาการและหมวดการแพทย์ ขณะที่นักลงทุนเห็นว่าหมวดแฟชั่น ไม่น่าสนใจมากที่สุด รองลงมาคือ หมวดเหล็กและหมวดวัสดุก่อสร้าง

“นักลงทุนต่างชาติและสถาบันไทยชอบกลุ่มแบงก์มากที่สุด เพราะกำไรครึ่งปีแรกโต และอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่ธปท. ตั้งเป้า 1-3% ตอนนี้ทะลุ 7% นำมาสู่การปรับขึ้นดอกเบี้ย คาดปรับขึ้น 0.25% ทุกการประชุม จนถึง 1.25% ” นายกอบศักดิ์กล่าว