HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 0.15 จุด หลายปัจจัยนอกประเทศกดดัน กังวลเศรษฐกิจชะลอตัว-การเร่งขึ้นดอกเบี้ยเฟดไม่แน่นอน ด้านยุโรปก็กังวลเงินเฟ้อสูง-วิกฤตพลังงานหลังรัสเซียไม่ส่งก๊าซไปยุโรป เสี่ยงเศรษฐกิจยุโรปถดถอย นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,219.56 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,847.22 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้แกว่งไซด์เวย์ แนวรับ 1,600 แนวต้าน 1,625-1,630 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 5 ก.ย.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,622.00 จุด ลดลง 0.15 จุด หรือ -0.01% มูลค่าซื้อขาย 55,635.42 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,622.72 จุด ต่ำสุด 1,611.86 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,219.56 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 584.00 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,847.22 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 211.66 ล้านบาท
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่ง Sideway ถึง Sideway Down คล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบบวก/ลบราว 0.2% กังวลเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่ภาคแรงงานของสหรัฐตัวเลขออกมาแผ่วลง ตลาดเริ่มมองโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% มีน้อยลง แต่ก็ยังต้องติดตามดูต่อไป อีกทั้งยังรอดูตัวแลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 ก.ย.นี้ และวันที่ 7-8 ก.ย.รอฟังถ้อยแถลงของประธานเฟดสาขาต่างๆ ที่จะออกมาให้ความเห็น ก่อนการประชุมเฟดวันที่ 21-22 ก.ย.นี้
ขณะที่ตลาดในยุโรปปรับตัวลงแรงจากความกังวลเงินเฟ้อสูงมาก และทางรัสเซียก็ยังไม่สามารถส่งก๊าซธรรมชาติไปยุโรปได้อย่างไม่มีกำหนด ส่งผลให้ยุโรปเกิดวิกฤตด้านพลังงาน และมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจยุโรปจะถดถอยได้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 6 ก.ย.2565 ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ไปก่อนในช่วงที่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา และยังไม่มีปัจจัยขับเคลื่อน โดยมีแนวรับ 1,600 จุด แนวต้าน 1,625-1,630 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BANPU ปิดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ +2.88% มูลค่าซื้อขาย 2,251.13 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 524.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท หรือ +2.75% มูลค่าซื้อขาย 1,994.83 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.42% มูลค่าซื้อขาย 1,760.94 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 191.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,738.86 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.33% มูลค่าซื้อขาย 1,578.31 ล้านบาท