HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,617.17 จุด ลดลง 4.98 จุด คล้ายตลาดหุ้นทั่วโลก รับแรงกดดันจากหลายปัจจัยในต่างประเทศ ทั้งการลดงบดุลของสหรัฐ-การประชุม ECB-เฟด ที่มีประเด็นการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงสถานการณ์ในยุโรปที่มีความเสี่ยงเศรษฐกิจจะแย่ลง ส่งเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า-สินทรัพย์เสี่ยงเดี้ยง แนวโน้มภาคบ่ายซึมลง แนวรับ 1,610 แนวต้าน 1,622 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 5 ก.ย.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,617.17 จุด ลดลง 4.98 จุด หรือ +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 28,882.80 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,622.60 จุด และต่ำสุด 1,615.84 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ซึมลงคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นทั่วโลก รับแรงกดดันจากหลายปัจจัยในต่างประเทศ ไม่ว่าจะการลดงบดุลของสหรัฐที่เริ่ม 1 ก.ย.ที่ผ่านมา, การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21 ก.ย. ซึ่งมีประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงสถานการณ์ในยุโรปที่มีความเสี่ยงเศรษฐกิจจะแย่ลง ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงต่างปรับตัวลง
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าหลังการประชุมเฟด 21 ก.ย.สถานการณ์การลงทุนโดยรวมอาจจะดีขึ้น เพียงแต่ในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้บรรยากาศการลงทุนคงจะอยู่ในลักษณะซึมตัวลง ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทรงตัวทั้งในแดนบวก-ลบ
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดคงจะซึมตัวลง โดยมีแนวรับ 1,610 จุด แนวต้าน 1,622 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
ADVANC ปิดที่ 190.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.78% มูลค่าซื้อขาย 1,168.08 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ +2.88% มูลค่าซื้อขาย 1,060.50 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 71.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.69% มูลค่าซื้อขาย 1,002.17 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 492.00 บาท ลดลง 18.00 บาท หรือ -3.53% มูลค่าซื้อขาย 885.67 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.66% มูลค่าซื้อขาย 875.71 ล้านบาท