HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีวันนี้ทรงตัว แรงกดดันเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยลดลง หลังอัตราว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้น แนวรับแรก 1,615 จุด แนวต้าน 1,630 จุด แนะนำทยอยซื้อกลุ่มเปิดเมือง เช่น ค้าปลีก CPALL, BJC, CPN ท่องเที่ยว CENTEL, VRANDA ขนส่ง BA, AAV, BEM หุ้นเด่นประจำวันเสิร์ฟ NSL, TFG
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวหลังแรงกดดันเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยลดลง หลังอัตราว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยวางแนวรับดัชนีที่ 1,610 – 1,615 จุด แนวต้าน 1,630 จุด แนะนำทยอยซื้อกลุ่มเปิดเมือง เช่น ค้าปลีก CPALL, BJC, CPN ท่องเที่ยว CENTEL, VRANDA ขนส่ง BA, AAV, BEM
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ NSL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 21.00 บาท) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวหลัง Reopening โดยยอดขายสินค้าเบเกอรี่ที่มีสัดส่วนรายได้กว่า 90% ล้อไปตาม Traffic ของ 7-11 (นักเรียน พนักงาน Office และชาวต่างชาติ)
นอกจากนี้ยังมีการออกสินค้าใหม่และทำโปรโมชั่นผ่านช่องทาง Delivery ช่วยหนุนการขาย ประกอบกับมีการปรับขึ้นราคาสินค้าบางรายการเพื่อชดเชยต้นทุน แป้งสาลี เนื้อสัตว์ น้ำมันปาล์ม ค่าขนส่ง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นทยอยปรับตัวดีขึ้นและน่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นใน 4Q65 ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 65 ที่ราว 260 ล้านบาท +36%YoY และปี 66 ที่ 313 ล้านบาท +20%YoY
หุ้น TFG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.90 บาท) สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงถัดไป เบื้องต้นเราประเมินว่ายังคงความสดใสไว้ได้ มีแรงหนุนจากปัจจัยหลัก คือ ราคาเนื้อสัตว์ในไทยที่ยังอยู่ในระดับสูง จากการทำธุรกิจในไทยเป็นหลัก(สัดส่วนราว 70%) โดยช่วง ส.ค.65 ราคาสุกรอยู่ที่ 104 บาท/กก.(+2.97%MoM, +48.57%YoY) และราคาไก่อยู่ที่ระดับ 47 บาท/กก.(+4.44%MoM, +59.32% YoY)
ด้าน TFG เอง มีแผนขยายฐานรายย่อยผ่านการขยายสาขา ร้านไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต เพื่อช่วยกระจายผลิตภัณฑ์ของ TFG* ให้กับลูกค้ารายย่อยโดยตรง ปีนี้ตั้งเป้าจะมีสาขารวมอยู่ที่ 200-220 สาขา โดยล่าสุดมีจำนวนอยู่ที่ 159 สาขา ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี65 จะขยายตัวแรงจากปี 64 ที่ 0.10 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.74 บาท/หุ้น