HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,624.79 จุด ลดลง 14.14 จุด Sentiment ส่วนใหญ่เป็นลบจากแรงกดดันนอกประเทศ ทั้งราคาน้ำมันร่วง-กังวลเศรษฐกิจจีนหลังคุมเข้มการแพร่ระบาดโควิด-เล็ง ECB ขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อพุ่ง-กังวลสถานการณ์ระหว่างจีนและไต้หวัน หลังไต้หวันเตรียมความพร้อมทางทหาร แนวโน้มภาคบ่ายพักตัว แนวรับ 1,625 ถัดไป 1,620-1,610 แนวต้าน 1,640-1,645 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 1 ก.ย.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,624.79 จุด ลดลง 14.14 จุด หรือ -0.86% มูลค่าการซื้อขาย 44,199.09 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,640.65 จุด และต่ำสุด 1,623.66 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลง โดยSentiment ส่วนใหญ่เป็นลบจากแรงกดดันปัจจัยนอกประเทศ ทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และความกังวลเศรษฐกิจจีนที่หันมาคุมเข้มการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งตัวเลข PMI ของจีนก็หดตัวอยู่ โดยเฉพาะภาคการผลิตที่กดดัน แต่ตลาดหุ้นจีนก็ยังบวกได้เล็กน้อย
นอกจากนี้ ยังจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังจากที่เงินเฟ้อล่าสุดออกมาทำจุดสูงสุดที่ 9.1% สูงกว่าคาด ด้านสถานการณ์ระหว่างจีน และไต้หวันก็ยังมีความกังวลอยู่ หลังจากที่ไต้หวันมีการเตรียมความพร้อมด้านการทหาร ส่วนสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย และยูเครน ยังเหมือนเดิม ดังนั้นตลาดจึงย่อตัวลงก่อน แต่สำหรับไทยแม้ว่าจะย่อตัวลงแต่ก็น่าจะมีแรงซื้อหนุนจากนักลงทุนต่างชาติมาช่วยประคองตลาดไว้ จากที่ได้แรงกระตุ้นจากการบริโภคภายในที่ดีขึ้น ซึ่งวันนี้โครงการคนละครึ่งก็เริ่มใช้วันแรก และส่วนของการท่องเที่ยวก็จะดีในช่วงปลายปีด้วย
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามคืนนี้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ และพรุ่งนี้ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาคคงจะยังพักตัวอยู่ โดยมีแนวรับ 1,625 ถัดไป 1,620-1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640-1,645 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
TLI ปิดที่ 16.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 2,763.69 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 29.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 2,488.15 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 14.30 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ -1.38% มูลค่าซื้อขาย 2,242.77 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 152.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.65% มูลค่าซื้อขาย 1,832.64 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 36.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -2.00% มูลค่าซื้อขาย 1,735.27 ล้านบาท