หุ้นเลือกข้าง 1,600 หรือ 1,700  สัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยคาดหุ้นสัปดาห์หน้า มีโอกาสร่วงลงไปต่ำสุดที่ 1,605  จุด หรือจะขึ้นไปถึง 1,690 จุด ติดตามฟันด์โฟลด์-การเมืองไทย-ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ  ด้านค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยให้กรอบเคลื่อนไหวที่ระดับ 35.50-36.30 บาท  หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบประมาณ 3 สัปดาห์ที่ 36.33 บาทต่อดอลลาร์ฯ 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (29 ส.ค.-2 ก.ย.) ว่า ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,640 และ 1,605 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,665 และ 1,690 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงประเด็นการเมืองในประเทศ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิต ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนส.ค.

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือนส.ค.ของยูโรโซน จีนและญี่ปุ่น

ในวันศุกร์ (26 ส.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,644.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.16% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 71,450.31 ล้านบาท ลดลง 3.86% ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.91% ปิดที่ 642.97 จุด

ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวอิงขาขึ้นตลอดสัปดาห์ ทั้งนี้ SET Index ปรับตัวลงในช่วงแรกตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งเผชิญแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หุ้นไทยดีดตัวขึ้นได้ในเวลาต่อมาตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติก่อนงาน Thailand Focus ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองในประเทศยังไม่ได้กดดันหุ้นไทยมากนัก

อย่างไรก็ดีกรอบขาขึ้นของตลาดหุ้นไทยจำกัดลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดรอติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดจากงานประชุมประจำปีที่ Jackson Hole

สำหรับหุ้นกลุ่มที่ปรับขึ้นมากในสัปดาห์นี้ ได้แก่ กลุ่มพลังงานและกลุ่มแบงก์ (ซึ่งมีแรงหนุนจากการยกเลิกดีลซื้อกิจการบริษัทธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของแบงก์รายใหญ่แห่งหนึ่ง)

ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (29 ส.ค.-2 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหว ที่ระดับ 35.50-36.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทเคลื่อนไหวอย่างผันผวนระหว่างรอถ้อยแถลงของประธานเฟด แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบประมาณ 3 สัปดาห์ที่ 36.33 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงแรกท่ามกลางทิศทางที่อ่อนค่าของสกุลเงินเอเชียและเงินหยวน หลังจากธนาคารกลางจีนเพิ่มการผ่อนคลายทางการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ลงเพื่อบรรเทาแรงกดดันในตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจจีนในภาพรวม

นอกจากนี้เงินดอลลาร์ฯ ขยับขึ้นตามทิศทางบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งอาจจะมากกว่า 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย.

เงินบาทแข็งค่าช่วงสั้นๆ ระหว่างสัปดาห์ หลังข้อมูล PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนส.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด กดดันเงินดอลลาร์ฯ ให้อ่อนค่าลง อย่างไรก็ดีเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดรอติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดในงานสัมมนาประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole

ในวันศุกร์ที่ 26 ส.ค. 2565 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.67 บาท ในวันศุกร์ก่อนหน้า (19 ส.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 22-26 ส.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 9,349 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น NET OUTFLOW ออกจากตลาดพันธบัตร 6,355 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 755 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 5,600 ล้านบาท)