HoonSmart.com>>“เจริญอุตสาหกรรม” (CH) หุ้นฟู้ดเทค จ้าวตลาดมะม่วง-ผลไม้อบแห้งส่งออก 70% – ผู้นำนวัตกรรม อาหารเพื่อสุขภาพ ปูพรมขายหุ้นระดมทุน IPO, สร้างการเติบโตของยอดขาย และแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่ง, ขยายโรงงานในกัมพูชา ปิดความเสี่ยงวัตถุดิบขาดตลาด
กำเนิด “เจริญอุตสาหกรรม”
บริษัท เจริญอุตสาหกรรม (CH) บริษัทที่มีประวัติดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 97 ปี เริ่มจากรุ่น 1 ตระกูล “ซี” “หยกปิง – ฮวงน้ำ -เกียยู้ แซ่ซี” ร่วมก่อตั้งกิจการ “จิ้นฮ่วยกงสี” ขึ้นและบริหารงาน ในปี 2468 โดยเริ่มจากธุรกิจน้ำปลา-ซีอิ้ว ตรา “เรือรบ” ก่อนขยายเข้าสู่การผลิตปลากระป๋อง “ตราชูมาโก “ รายแรก ๆ ของประเทศไทย กระทั่งถึงปัจจุบันที่คุ้นตาในชั้นขายสินค้าตามซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของประเทศไทย
ไม่เพียงเท่านั้น “จิ้นฮ่วยกงสี” ยังมีผลิตภัณฑ์พร้อมกินอีกมากมาย จากน้ำปลา , ปลากระป๋อง , ผักกาดดองกระป๋อง, ปลาทอดกรอบบรรจุกระป๋อง, ปลาหมึกทอดบรรจุกระป๋อง
กระทั่งในปี 2493 กลุ่มครอบครัวซี จึงจดทะเบียนตั้งบริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (CH) ขึ้นมา เริ่มขยายตลาดไปยังต่างประเทศไปฮ่องกง รวมทั้งพัฒนาปลากระป๋องสูตรพรีเมี่ยม แบรนด์ SUMACO และในปี 2520 ยังได้ตั้งบริษัท ห้องเย็นท่าฉลอม จำกัด เพื่อบริหารและจัดเก็บปลา ซึ่งเป็นวัตถุดิบผลิตปลากระป๋อง
จากรุ่น 1 สู่รุ่น 3
การบริหารงานจากรุ่นพ่อ สูงรุ่นลูก เข้าสู่ยุคที่ 2 (ประทีป ศรีสกาวกุล , ประสาน ศรีแสงนาม, ประกอบ ศรีแสงนาม ) เช่นเดียวกับการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งของ CH ในปี 2526 จึงได้เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งเพื่อส่งออก เริ่มจากขายแบบแพ็คใหญ่ ( Bulk Pack) หลังจากนั้นรับจ้างผลิตตามความต้องการลูกค้า ( OEM) ติดตราสินค้าของลูกค้า กระทั่งพัฒนาสร้างแบรนด์ EROS จำหน่ายกลุ่มลูกค้ารายย่อย
กระทั่งปี 2545 CH ได้เริ่มพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งแบบ Soft-Dried เป็นนวัตกรรมที่ทำให้สินค้าคงมีรสชาติและเนื้อมใกล้เคียงผลไม้สด
ในปี 2556 CH มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้ง เมื่อทายาท รุ่น 2 ส่งไม้ต่อให้ทายาทรุ่น 3 ประกอบด้วย “ศักดา ศรีแสงนาม , ประวิทย์ ศรีแสงนาม และปิยวงศ์ ศรีแสงนาม บริหารงาน ถึงปัจจุบัน
สำหรับรุ่น 3 นี้ มีการโอนกิจการห้องเย็นท่าฉลอม เข้ามารวมอยู่กับ CH และการพัฒนาเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์มากขึ้น มี “ขนมเพื่อสุขภาพ MEBLE” เป็นธัญพืช อบแห้ง กราโนล่าบอล
โกอินเตอร์ ออกไปโตนอกบ้าน
รวมทั้งขยายฐานการผลิตเข้าไปยังประเทศกัมพูชา โดยจัดตั้งบริษัท Chin Huay (Cambodia) เพราะที่กัมพูชา เป็นแหล่งปลูกมะม่วงสายพันธุ์ที่ต้องการ และมีราคาถูก ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์บริษัท เป็นการปิดความเสี่ยง ลดการพึ่งพาวัตถุดิบจากไทยเพียงแห่งเดียว และยังได้ประโยชน์ด้านภาษี จากสินค้าที่ส่งออกจากกัมพูชา ไปอียู ไม่ต้องเสียภาษี
ทั้งนี้ มะม่วงอบแห้ง เป็นสินค้าหลักส่งออกของ CH ที่สร้างรายได้ 50% ของการส่งออก ตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ถึง 33% ของการส่งออก ซึ่งผลไม้อบแห้งส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เป็นสัดส่วนมากถึง 70-80% และขายในประเทศ 20% ของรายได้
ปี 2564 ตั้งบริษัท โฮลดิ้งส์ ในสิงคโปร์ ชื่อ ” Chin Huay Holding (Singapore) Pte. ซึ่ง CH ถือหุ้น 100% เป็นโฮลดิ้งส์ ร่วมลงทุนกับพันธมิตรในต่างประเทศ
ศูนย์วิจัย-พัฒนาผลิตภัณฑ์
นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม บอกว่า การบริหารโดยรุ่น 3 มุ่งเน้นนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดย 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตโควิด บริษัทลงทุนสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ด้วยงบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เบื้องต้นเป็น มะม่วงโปรไบโอติก ก่อนขยายไปยังผลไม้อื่น , พัฒนาอาหารแพลนต์เบส สำหรับผู้รักสุขภาพ โดยได้ผู้บริหาร ทายาทรุ่น 4 ที่จบการศึกษาด้านฟู้ดซาย เข้ามาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งเปลี่ยนการบริหารมืออาชีพมากขึ้น เพื่อให้การทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า CH ถือเป็นผู้ส่งออกมะม่วงอบแห้ง รายใหญ่ของไทย ที่ส่งออกไปต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นการขายปริมาณมาก ๆ ให้กับลูกค้า เป็นแบรนด์ของ CH เพียง 7% ของยอดขายเท่านั้น บริษัท ฯ จึงมีเป้าหมายที่จะสร้างแบรนด์ของบริษัท ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ วิจัย-พัฒนา ผลิตภัณฑ์ขึ้นมาให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นการเป็น ผู้นำนวัตกรรมอาหารสุขภาพ
เพิ่มทุน-เข้าตลาดหุ้น เพิ่มโอกาสการเติบโต
ซีอีโอศักดา บอกว่า การเข้าตลาดหุ้น นอกจากภาพลักษณ์การเป็นบริษัทจดทะเบียน เป็นบริษัทบริหารงานมืออาชีพ การบริหารจัดการโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยังเป็นการเพิ่มโอกาสการเติบโต จากเงินระดมทุน นำไปขยายการลงทุน ปรับปรุงพื้นที่จัดเก็บสินค้า เพื่อการเติบโตทางยอดขาย เนื่องจากผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท เป็นผลไม้ตามฤดูกาล การวางแผนการขาย-การเก็บวัตถุดิบ ต้องสอดคล้องกับการขาย ฉะนั้น การเก็บสินค้าจึงมีความสำคัญมาก
ปัจจุบัน CH อยู่ระหว่างการโรดโชว์ นำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนหลายจังหวัด และจังหวัดสุดท้ายกรุงเทพ ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ คาดแต่งตั้งตัวแทนจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเสนอขายประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) สัปดาห์หน้า
จำนวนหุ้นเสนอขาย 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 20% ของทุนชำระแล้ว 400 ล้านบาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) เป็นที่ปรึกษาการเงิน และ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส แกนนำจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
