ITEL ตั้งเป้าปี’61 รายได้แตะ 1,400 ล้าน จ่อประมูลงานกสทช.เพิ่ม

ITEL ตั้งเป้าปี’61 รายได้ 1,400 ล้าน เริ่มรับรู้รายได้ให้เช่าโครงข่ายที่มี Backlog มากถึง 2,300 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ให้เช่าโครงข่าย – ดาต้า เซ็นเตอร์แห่งใหม่ ลุ้นเพิ่มบริการใหม่ให้บริการกล้องวงจรปิด พร้อมเดินหน้าประมูลโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบ เฟส 2 มูลค่าโครงการกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท

นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2561 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 1,400 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้จาก Data Service และ Data Center กว่า 750 ล้านบาท และโครงการอื่นๆ 650 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่ผู้บริหารได้วางแผนไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดซึ่งคาดการณ์ว่าระยะยาวจะมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 80% ของรายได้ทั้งหมด


บริการเชื่อมต่อข้อมูลซึ่งเป็นบริการหลักของบริษัท คาดจะมีการเติบโตมาจากโครงข่ายที่ขยายตัวไปมากถึง 75 จังหวัด และลูกค้าที่ทยอยเข้ามาใช้บริการอันเนื่องมาจากประสิทธิภาพของโครงข่ายและความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของการให้บริการ เช่นกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) , บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กลุ่มให้บริการเงินกู้ เมืองไทย ลิสซิ่ง และ ศรีสวัสดิ์ กลุ่มร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่น-อีเลฟเว่น กลุ่มโรงหนัง เช่น Major และกลุ่มราชการอีกมากมาย โดยคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตเฉลี่ย 20 % ทุกปี อีกทั้งคาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นแตะ 40 % ได้ภายใน 5 ปี

เสริมทัพด้วยธุรกิจ Data Center ซึ่งมีถึง 2 แห่ง โดยในแห่งแรกได้สร้างเสร็จและให้บริการเต็มพื้นที่เรียบร้อยแล้ว คาด Data Center แห่งที่ 2 ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการ Q1/2561 จะมียอดการเข้าใช้งานที่ 30 % ภายในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ และหวังจะมีลูกค้าทยอยเข้ามาใช้บริการ 60 % ในสิ้นปีนี้

อีกทั้งโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบ (USO NET) จะทยอยรับรู้รายได้การติดตั้งทั้งหมดภายในปีนี้ซึ่งมีมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 517 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะเติบโตต่อเนื่อง คาดว่ารายได้จะมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 20% คาดบริษัทจะมีข่าวดีจากธุรกิจหลักที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีแนวโน้มอัตรากำไรที่ดีขึ้นเป็นลำดับและยังมีงานประมูลใหม่ที่มีแนวโน้มเข้าร่วมประมูลกว่า 1.8 หมื่นล้านบาทโดยบริษัทตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งในงานดังกล่าวไม่น้อยกว่า 15 %