BTS-SIRI จ่อบุ๊กกำไรโอน 2 โครงการก.ย.นี้มูลค่า 5.3 พันล.

“บีทีเอส-แสนสิริ” จ่อบุ๊กกำไรโอน 2 โครงการใหญ่ “เดอะไลน์ อโศก-รัชดา และ เดอะเบส การ์เดน-พระราม 9” ปลายเดือนก.ย.นี้ มูลค่ารวม 5.3 พันล้านบาท เตรียมจ่อคิวเปิดตัวโครงการใหม่ “เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค” มูลค่าโครงการ 4.9 พันล้าน ปลายเดือนพ.ย.นี้

น.ส.วรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการทั่วไป บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มบีทีเอส (BTS) และบริษัท แสนสิริ (SIRI) ประกาศความร่วมมือในแผนระยะยาวในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน ภายใต้บริษัทร่วมทุน บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นแห่งละ 50% ได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมร่วมกันแล้ว 12 โครงการ มูลค่ารวม 43,000 ล้านบาท ซึ่งหลายโครงการประสบความสำเร็จปิดการขายได้ทันทีในวันพรีเซลล์ โดย 2 โครงการใหญ่ ที่จะเริ่มโอนและรับรู้กำไรทันทีในปลายเดือนก.ย.นี้ ได้แก่ โครงการ เดอะไลน์ อโศก – รัชดา มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท และโครงการเดอะเบส การ์เด้น – พระราม 9 มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท จากทั้งหมด 4 โครงการตามแผนโอนในปีนี้ มูลค่าการโอนรวมปีนี้ประมาณ 13,000 ล้านบาท

ส่วน 2 โครงการ ได้แก่ เดอะไลน์ ราชเทวี มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาทเริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 โครงการเดอะไลน์ วงศ์สว่าง คอนโดมิเนียมพร้อมโอนสร้างเสร็จก่อนขายมูลค่าโครงการ 4,800 ล้านบาท เริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่ไตรมาส 1/2561 เป็นต้นมา

อย่างไรก็ตามบริษัทฯรับรู้กำไรปีนี้อีก 4 โครงการดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ ได้กำไรจากบริษัทร่วมทุนแตะ 700 ล้านบาท นอกจากนี้แสนสิริยังมีรายได้รายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสในปีนี้เพิ่มเติมอีก 6,000 ล้านบาทอีกด้วย

น.ส.วรางคณา กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากการโอน 2 โครงการใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้าย คือ เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา และ เดอะ เบส การ์เด้น-พระราม 9 จากความโดดเด่นของทั้ง 2 โครงการ รวมถึงศักยภาพของโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเล อโศก-พระราม 9 ซึ่งเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง รองรับการเติบโตและขยายตัวของเมืองชั้นใน นับเป็นทำเลศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ที่รวมการคมนาคมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจจากการรายล้อมด้วยโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ

“หากพิจารณาในแง่ของการลงทุน ทั้งจากการปล่อยเช่าและการถือครองระยะยาว ทำเลนี้นับว่ามีศักยภาพในแง่การลงทุนสูงจากความต้องการใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ย้ายมาอยู่อาศัยตามแหล่งงาน โดยเฉพาะชาวจีนและชาวญี่ปุ่นที่เริ่มเห็นเพิ่มขึ้นในทำเลนี้”น.ส.วรางคณา กล่าว

สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ยังเตรียมเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ ร่วมกันอีก 1 โครงการ คือ โครงการเดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค มูลค่าโครงการ 4,900 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการด้านที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เตรียมเปิดให้บริการในปี 2563 โดยจุดเด่นของโครงการคืออยู่ติดรถไฟฟ้า 2 สาย เพียง 300 เมตรจากสถานีห้าแยกลาดพร้าว พร้อมสวนขนาดใหญ่ กว่า 8 ไร่ และส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 3,000 ตร.ม.ที่พัฒนาภายใต้คอนเซป ‘Green is a new luxury’ จะเปิดการขายในเดือนพ.ย.นี้