HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,627.89 จุด เพิ่มขึ้น 5.63 จุด ตอบรับ GDP งวดไตรมาส 2/65 ไม่ได้แย่ ได้แรงดันจากหุ้นที่งบฯออกมาดี อย่างหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นขึ้นยกแผงหลังงบฯสวย และ KBANK ช่วยหนุนดัชนีฯหลังได้เข้า MSCI ส่วนท่องเที่ยวได้แรงหนุนสภาพัฒน์คาดจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ขึ้นเป็น 9.5 ล้านคน จากเดิม 7 ล้านคน แนวโน้มภาคบ่ายแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,620 จุด แนวต้าน 1,630 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 15 ส.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,627.89 จุด เพิ่มขึ้น 5.63 จุด หรือ +0.35% มูลค่าการซื้อขาย 41,513.12 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,630.12 จุด และต่ำสุด 1,617.00 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แม้ในช่วงแรกดัชนีฯจะถอยลงมาจนติดลบจาก GDP งวดไตรมาส 2/65 ของไทยที่ออกมาไม่ดี โดยสภาพัฒน์เผย GDP ไตรมาส 2/65 ขยายตัว 2.5% แต่หากเข้าไปดูในรายละเอียดจะพบว่า การบริโภคภาคเอกชนเติบโตดี แต่ที่แย่มาจากการลงทุนของภาครัฐ เนื่องจากปีที่แล้วมีการเติบโตที่สูงมาก ทำให้ตัวเลข GDP ของไทยที่ออกมาถือว่าไม่แย่ ดัชนีฯจึงฟื้นตัวขึ้นมาได้
หุ้นที่ขึ้นนำตลาดเป็นหุ้นกลุ่มที่มีผลประกอบการออกมาดี โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่ปรับตัวขึ้นยกแผง รับแรงหนุนจากงบออกมาดี และเรื่องที่รัฐขอความช่วยเหลือก็ดูจะเงียบ ๆ ไปด้วย และได้แรงหนุนจาก KBANK หลังได้เข้า MSCI ส่วนหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวก็ได้แรงหนุนจากสภาพัฒน์ปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ขึ้นเป็น 9.5 ล้านคน จากเดิม 7 ล้านคน ส่วนภาคสังหาริมทรัพย์ก็คาดหวังจากเงินปันผล
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีน ได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาไม่ดีเท่าไร ทั้งยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ต่างก็ออกมาต่ำกว่าคาด พร้อมให้ติดตาม คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 17 ส.ค.นี้ และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงโค้งสุดท้าย รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯต่อไป
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,620 จุด แนวต้าน 1,630 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 151.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.34% มูลค่าซื้อขาย 3,181.26 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 28.00 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.88% มูลค่าซื้อขาย 2,590.57 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 60.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,885.77 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 106 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.95%มูลค่าซื้อขาย 1,314.97 ล้านบาท
CBG ปิดที่ 111.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.33% มูลค่าซื้อขาย 1,145.21 ล้านบาท