เศรษฐกิจ Q2/65 ชี้นำหุ้นไปต่อ 1,650 หรือร่วง 1,585 สัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้น้ำหนักเพียง 2 ปัจจัยชี้นำตลาดหุ้นสัปดาห์หน้า  คือ  เศรษฐกิจไตรมาส 2/65 เติบโตเท่าไร จะรู้ผลวันที่ 15 ส.ค. และฟันด์โฟลด์ ต่างชาติซื้อหุ้น-ตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง หนุนดัชนีหุ้นขึ้นติดต่อกัน 4 สัปดาห์ ด้านค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยคาดแกว่งในกรอบ 34.70-35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งที่ 35.16  

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (15-19 ส.ค.) ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,585 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,635 และ 1,650 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลชจีดีพีไตรมาส 2/65 ของไทย (15 ส.ค.) และทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. รวมถึงรายงานการประชุมเฟด

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/65 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ค. ของยูโรโซน ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ค. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร

ในวันพฤหัสบดี (11 ส.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,622.26 จุด เพิ่มขึ้น 1.32% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 66,580.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.85% ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.32% มาปิดที่ 610.95 จุด

หุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ ทั้งนี้ SET Index ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังมีสัญญาณสะท้อนว่าแรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เริ่มชะลอลง ซึ่งช่วยคลายความกังวลบางส่วนเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับมีแรงซื้อต่อเนื่องจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน

อย่างไรก็ดี หุ้นไทยย่อตัวลงเล็กน้อยในระหว่างสัปดาห์ ตามแรงขายหุ้นบางตัวในกลุ่มไฟแนนซ์และเทคโนโลยีจากผลประกอบการที่ออกมาแย่กว่าคาด ขณะที่ผลการประชุมกนง. ในระหว่างสัปดาห์ออกมาตามตลาดคาด และกนง.ยังส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

สำหรับค่าเงินบาท สัปดาห์ถัดไป (15-19 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 34.70-35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังจากเงินบาทผันผวนในกรอบแข็งค่า และแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบประมาณ 1 เดือนครึ่งที่ 35.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ การแข็งค่าของเงินบาทสอดคล้องกับหลายสกุลเงินในภูมิภาค ประกอบกับมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากสถานะซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดีเงินบาทอ่อนค่าลงช่วงสั้นๆ หลังการประชุมกนง. ซึ่งมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ไปที่ระดับ 0.75% และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะข้างหน้า

เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งในช่วงก่อนวันหยุดของตลาดในประเทศ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ชะลอลงมาที่ 8.5% YoY (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 8.7% YoY) ซึ่งสนับสนุนมุมมองว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ น่าจะผ่านพ้นจุดสูงสุดแล้ว และอาจทำให้เฟดไม่จำเป็นต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้า

ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ส.ค. 2565 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 35.17 (หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งที่ 35.16) เทียบกับระดับ 35.57 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (5 ส.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 8-11 ส.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 14,431 ล้านบาท ขณะที่มีสถานะเป็น NET INFLOW เข้าตลาดพันธบัตร 8,487 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 8,997 ล้านบาท แต่มีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 510 ล้านบาท)