โดย-รัสปูติน
www.HoonSmart.com “ เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 26 กันยายน 2561
* ตูข้ารู้สึกสะอิดสะเอียนสื่อและนักวิเคราะห์ที่ชอบอ้างเรื่องหุ้นบวกเพราะทำวินโดว์เดรสซิ่งมาก มันเป็นข้ออ้างปัญญาอ่อนชัดเจน นอกจากดูถูกคนฟังแล้วยังประจานตัวเองอีก ดังนั้นการที่วอลุ่มตลาดที่เบาบาง แค่ 4.2 หมื่นล้านบาท แล้วทำให้ดัชนีลบไปนิดหน่อย ทำให้ข้ออ้างประเภท”กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว…”เลิกก่อความรำคาญ แม้ชั่วคราวก็ยังดี
* ตัวเลขสอพลอออกมาอยู่เรื่อยๆยามนี้ ก่อนเปิดตลาดบ่ายวานนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ออกมาร้องป่าวตามใบสั่งอีกว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือน ส.ค.61 อยู่ที่ 113.04 ขยายตัว 0.7% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ส่งผลให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 61 (ม.ค.-ส.ค.) MPI ขยายตัว 3.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (8 เดือนปี 60 ขยายตัว 1.50%)
* ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมสำคัญในไตรมาส 4 ปี 2561 เช่น อุตสาหกรรมอาหาร คาดว่าขยายตัว 7.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผลผลิตสินค้าเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าหลักของไทยอย่างสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น และ CLMV รวมทั้งการขยายตลาดใหม่เพิ่มขึ้น อาทิ อาเซียน แอฟริกา และตะวันออกกลาง…คิดถึงสมัยก่อนโซเวียตล่มสลายที่มักจะบอกว่า”…ทุนนิยมอ่อนแอลงทุกวัน สังคมนิยมเข้มแข็งขึ้นทุกวัน…” สูเจ้าเคยผ่านหูรึเปล่า
* วันนี้ เป็นวันชี้ขาดว่า เฟดฯจะขึ้นดอกเบี้ยตามคาดหรือไม่ แต่เนื่องจากเวลาที่เหลื่อมกันมาก ทำให้วันนี้ ความเป็นไปได้มากสุดของพฤติกรรมตลาดคือหุ้นจะย่อตัวลง ก่อนที่จะพลิกกลับขึ้นตามเฟดฯ ตามคำอธิบายพื้นๆว่า ตลาดซึมซับข่าวร้ายจนหมดแล้ว ซึ่งไม่จริงเสมอไป ดังนั้นจึงอยากให้สูเจ้าจำไว้เลยว่า ยามที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ต้องซื้อหุ้นการเงินเพราะได้ประโยชน์มากสุด
* เวลาพูดถึงกลุ่มหุ้น มักจะพาลเข้าใจผิดกันได้เรื่อยเพราะลืมดูสัญญาณทางเทคนิค กรณี KTC เป็นตัวอย่างชัดเจน แม้จะมีข่าวดีสำหรับสังคมคน“ชอบรูด”จากกรณีระบบการชำระบัตรเครดิตผ่าน QR Code Payment ได้ผ่านการทดสอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทฯ จึงได้เร่งขยายพันธมิตรร้านค้าใหม่ๆ ในการรับชำระ KTC QR Pay มากขึ้นกว่า 300 ร้านค้า เพื่อร่วมพัฒนาสังคมไร้เงินสดให้ใช้จ่ายคล่องมือขึ้น แต่สัญญาณเทคนิคมันบอกให้ลงไปทดสอบใต้ 32.00 บาทอีกครั้ง
* ส่วนหุ้นที่ดวงตกหนักสุดยามนี้หนีไม่พ้น หุ้นกลุ่มอสังหา โดยเฉพาะรายที่มีค่าดี/อีสูงอย่าง LPN , ANAN, SIRI, PSH , SPALI, ORI จากกรณีถูกเทขาย ข่าววงในระบุว่า เป็นผลจากการส่งสัญญาณความเข้มงวดของแบงก์ชาติในการปล่อยสินเชื่ออสังหา และแนวโน้มการปรับ Loan to value & Loan to income (ปล่อยกู้ลำบากขึ้น) รายไหนมีเกียริ่ง เรโชสูง ต้องระวัง ยามที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น บทเรียนเก่าๆ มีมาเยอะแล้ว
* กรณีของ ANAN ตูข้าอดสงสัยไม่ได้ว่าร้อนเงินหรือเล่นเกมส์อะไร ถึงออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่ไม่กำหนดระยะเวลา แถมจ่ายดอกเบี้ย 5 ปีแรกแพงลิ่ว เหมือนกลัวขายไม่ออก ทั้งที่ออกมาแค่จิ๊บจ้อย ไม่กำหนดระยะเวลาที่ดอกเบี้ย 5 ปีแรก 8.5% ไม่จำเป็นอะไร และไม่ได้ลดค่าพี/อีอะไรเลย
* ในยามที่อะไรก็ไม่ปกติ ความไม่ปกติของหุ้นก่อสร้างอย่าง TTCL ที่บวกสวนตลาด 3% สวนโบรกฯแนะ”ขาย”หลังราคาเกินพื้นฐาน-ธุรกิจปีนี้เสี่ยงขาดทุน โดยราคาปิดตลาดอยู่ที่ 10.80 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.86% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 133 ล้านบาท ตูข้าไม่อยากพูดถึงนักลงทุนพวกบัวใต้น้ำ เพราะ”…ถึงเขาหลอกก็เต็มใจให้หลอก…”
* นี่ก็อีกคน คิดว่าคนอื่นกินแกลบกันหมดรึไง เสี่ยซ้งที่ทำ TVD ขาดทุนมากกว่ากำไรมายาวนาน แถลงข่าวเรื่องเทคบริษัทเจ้าของใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ว่าขอตั้งเป้ารายได้จากการขายสินค้าผ่านช่อง 19 สปริงนิวส์ ในปีนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของเป้าหมายยอดขายรวม 3,990 ล้านบาท …ยังกับยิ่งทำไป ยิ่งมีคนดูกระหน่ำยังไงยังงั้น ที่ตูข้าเจอเองคือโผล่มาก็ย้ายช่องทันที
* คืนที่ผ่านมา ดาวโจนส์แกว่งตัวผิดปกติ แต่บอนด์ยีลด์ที่พุ่งขึ้นขนาด บอนด์อายุ 2 ปียังทะยานขึ้นทะลุระดับ 2.840% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี เพราะมีความกังวลใหม่เข้ามา นอกเหนือจากเฟดฯ หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเตือนเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ทำให้ชักมีความไม่มั่นใจมากขึ้น คิดว่าเหตุการณ์ดาวโจนส์ร่วงวันเดียวกว่า 1 พันจุดจะไม่เกิด…ประมาทชะล่าใจเกินไป