HoonSmart.com>>หุ้นปิดลบ 1.59 จุด ตามตลาดภูมิภาค ขายทำกำไรก่อนเงินเฟ้อสหรัฐออกคืนนี้ ตลาดคาด 8.8% yoy อีกทั้งหุ้นขึ้นมาแรงแล้ว และงบฯหลายบริษัทที่ออกมาวันนี้ก็ไม่ดี เป็นตัวจุดพลุให้ขาย นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 3,619.92 ล้านบาท ด้านนักลงทุนไทยขาย 1,812.78 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับเงินเฟ้อสหรัฐ แนวรับ 1,611-1,600 แนวต้าน 1,630 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 10 ส.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,617.21 จุด ลดลง 1.59 จุด หรือ -0.10% มูลค่าซื้อขาย 67,116.24 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,618.07 จุด ต่ำสุด 1,606.09 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 3,619.92 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 129.60 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,812.78 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,936.73 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ขายทำกำไรก่อนเงินเฟ้อเดือนก.ค.ของสหรัฐฯจะออกมาในคืนนี้ โดยตลาดคาด 8.8% yoy ถ้าออกมาลดลงน้อยหรือยังสูงขึ้นก็จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงอยู่ แต่ลดลงมาก ก็จะทำให้ตลาดหุ้นรีบาวด์ในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ดี คนไม่มั่นใจก็ขายออกมาก่อน เพราะตลาดหุ้นก็ขึ้นมาแรงแล้ว อีกทั้งงบของหลายบริษัทที่ทยอยออกมาในวันนี้ก็ออกมาไม่ดี อย่าง KCE และ MTC ทำให้เป็นตัวจุดพลุในการขาย สำหรับเรื่องที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% แล้ว ต่อไปก็ต้องรอดูว่าธนาคารพาณิชย์จะขึ้นดอกเบี้ยสองขาหรือจะขึ้นแค่ขาเดียว
“รอบนี้หุ้นขึ้นมาได้จากต่างชาติทำ Long SET50 เยอะ ตั้ง 160,000 กว่าสัญญา ใน 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเล่นสั้นของต่างชาติ ซึ่งเป็นที่มาทำให้หุ้นขนาดใหญ่ในตลาดปรับขึ้นไปด้วย ซึ่งมีผลต่อดัชนีฯ ทำให้ดัชนีฯปรับขึ้นมา 6-7% แล้วใน 3 สัปดาห์ ซึ่งปกติต่างชาติจะไม่ทำ Long เยอะ ดังนั้นจะต้องคอยระวังต่างชาติกลับมา Short ซึ่งเมื่อไรต่างชาติ Short ตลาดก็จะปรับตัวลงไปด้วย ดังนั้นเมื่อหุ้นขึ้นแนะให้หาจังหวะในการขายทำกำไรดีกว่า เพราะตลาดขึ้นมาเยอะแล้ว จากนี้ก็ต้องมองลงบ้าง”
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 11 ส.ค.2565 ขึ้นอยู่กับเงินเฟ้อเดือนก.ค.ของสหรัฐที่จะออกมาเป็นอย่างไร พร้อมให้แนวรับ 1,611-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BANPU ปิดที่ 13.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +3.94% มูลค่าซื้อขาย 2,873.16 ล้านบาท
KCE ปิดที่ 57.50 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ -8.00% มูลค่าซื้อขาย 2,725.49 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.33% มูลค่าซื้อขาย 2,609.22 ล้านบาท
IVL ปิดที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +2.33% มูลค่าซื้อขาย 2,422.78 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.35% มูลค่าซื้อขาย 2,252.66 ล้านบาท