ฟันด์โฟลว์เข้าหุ้น-บอนด์-อนุพันธ์ต่อ ดันเงินบาทแข็ง 35.39 มากสุดภูมิภาค

HoonSmart.com>>ต่างชาติประลองกำลังนักลงทุนไทย ขนเงินเก็บหุ้นอีก 3,187 ล้านบาท ดันดัชนีบวก 9.93 จุด ซื้อสัญญาล่วงหน้า 30,210 สัญญา ตราสารหนี้ 4,863 ล้านบาท บาทแข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคปิด 35.39 ลุ้นผลประชุมกนง.-เงินเฟ้อสหรัฐที่จะออกมา 10 ส.ค.นี้ บล.พายให้แนวรับ 1,600 แนวต้าน 1,630 บล.ไทยพาณิชย์เตือนสัญญาณเทคนิคเข้าสู่ภาวะ Overbought ระวังอ่อนตัว ระยะสั้นเจอแนวต้าน 1,610-1,620 แนวรับ  1,589  บจ.ผู้นำธุรกิจอสังหาฯ-เช่าซื้อ-โรงกลั่น โชว์กำไรโดดเด่น Q2/65

ตลาดหุ้นวันที่ 9 ส.ค.2565 ดัชนีวิ่งได้ต่อ ปิดที่ระดับ 1,618.80 จุด เพิ่มขึ้น 9.93 จุด หรือ +0.62% มูลค่าการซื้อขาย 57,673.66 ล้านบาท แรงซื้อยังคงมาจากนักลงทุนต่างชาติกลุ่มเดียว 3,187.23 ล้านบาท ซึ่งเข้ามาเก็บตราสารหนี้ด้วยมูลค่า 4,863 ล้านบาท และซื้อสัญญาล่วงหน้ามากถึง 30,210 สัญญา

ขณะที่นักลงทุนไทยทั้ง 3 กลุ่มขายหุ้นทำกำไร นำโดยนักลงทุนทั่วไป -2,368 ล้านบาท สถาบัน 780  ล้านบาท  และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 38.61 ล้านบาท  ทั้งนี้แรงซื้อหุ้นเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ เช่น DELTA ปิดที่ 538 บาท เพิ่มขึ้น 32 บาท หรือ +6.32% รวมถึงหุ้นพลังงานอาทิ  PTTEP

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดอยู่ที่ 35.39 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่อง หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากตลาดกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยและทิศทางการปรับตัวเบี้ยขาขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกอบกับมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตรระยะสั้น โดยเงินบาทปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องวันละกว่า 10 สตางค์ และวันนี้แข็งค่ามากสุดในภูมิภาค

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับตลาดต่างประเทศ โดยหุ้นในภูมิภาคเอเชียมีทั้งบวก-ลบ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ ในช่วงรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และเงินเฟ้อเดือนก.ค.ของสหรัฐ ที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้(10 ส.ค.) อีกทั้งขึ้นอยู่กับการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของแต่ละตลาดซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะตัวด้วย

ทั้งนี้ ช่วงสั้นตลาดปรับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้วดังนั้นจะต้องระวังการปรับฐานด้วย และรอดูการส่งสัญญาณจากกนง.จะออกมาอย่างไร รวมถึงหากเงินเฟ้อสหรัฐออกมาเป็นไปตามตลาดคาด 9.1% หรือต่ำกว่า ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ที่การประชุมของเฟดในครั้งหน้ามีโอกาสที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นบวกต่อหุ้น สำหรับเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าจากเงินไหลเข้ามา ก็มองว่ายังเป็นแค่ช่วงสั้น ซึ่งปีนี้เศรษฐกิจไทยน่าจะดูดีขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 10 ส.ค.2565 ตลาดคงจะแกว่งตัวในกรอบเป็นไปได้ทั้งในแดนบวก-ลบ โดยมีแนวรับ 1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด

ด้านบล.ไทยพาณิชย์ มองดัชนีขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,600 จุด ขณะที่สัญญาณเทคนิคเข้าสู่ภาวะ Overbought ทำให้ยังต้องระวังการอ่อนตัวสลับเพื่อลดความร้อนแรง และในระยะสั้นกรอบบนยังจำกัดที่แนวต้าน 1,610-1,620 จุด ด้านกรอบล่างติดตามแนวรับที่ 1,589 จุด หากต่ำกว่า จะเริ่มเป็นสัญญาณลบ  โดยคาดเงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดแล้วหลังราคาน้ำมันลงหนักในก.ค. แต่ยังคาดเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แม้ตลาดการเงินเริ่มผ่อนคลายขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงินเฟ้อพื้นฐาน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มชะลอตัวลง  เป็นไปได้ว่าเฟดจะเปลี่ยนท่าทีต่อนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น

“สัปดาห์นี้มองหุ้นไทยจะยังผันผวนขึ้นอยู่กับการเก็งกำไรงบไตรมาสที่ 2/2565รวมทั้งจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ กนง.  เพื่อดูการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “เลือกซื้อหุ้น” ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและ/หรือ มีโมเมนตัมกำไรฟื้นตัวดี ”

บล.ไทยพาณิชย์แนะนำซื้อ MINT 2Q65 คาดก่าไรปกติ 1,400 ล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 2Q64 และ 1Q65 หนุนจากธุรกิจโรงแรมในยุโรปครึ่งปีหลังคาดผลประกอบการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  และหุ้น CRC คาดกำไรปกติ 1,300 ฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 401 ลบ.ใน 2Q64 และ +18%QoQ หนุนจากยอดขายปลีกและรายได้จากการให้เช่าที่ดีขึ้น อัตราก่าไรขั้นต้นกว้างขึ้น และควบคุม SG&A/ยอดขายดีขึ้น ปี 2565 คาดก่าไรปกติ 5,000  ล้านบาท +224% เติบโตดีสุดในกลุ่มพาณิชย์

ด้านบริษัทที่เป็นผู้นำในแต่ละธุรกิจและอุตสาหกรรม ทยอยประกาศออกมาดีเกินคาด TOP  กำไรสุทธิมากถึง 25,327  ล้านบาท พุ่งขึ้น 1,092.98%  เทียบกับไตรมาส 2/2564 ที่มีกำไรสุทธิ  2,123 ล้านบาท ส่งผลให้รวม 6 เดือนปีนี้กำไรทั้งสิ้น 32,510  ล้านบาท พุ่งขึ้น 492.92% เทียบกับกำไรสุทธิ 5,483 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน MTC ยังคงทำกำไรนิวไฮต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2/2565 มีกำไรสุทธิ 1,381 ล้านบาท เติบโต +8.74% รวมครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 2,756 ล้านบาทเพิ่มขึ้น  4.24%

ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น บริษัท SPALI มีกำไรสุทธิ  2,076 ล้านบาท เติบโต 20% รวมครึ่งปีมีกำไรสุทธิ  3,253 ล้านบาท เติบโต 31.59%  คณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.70 บาท กำหนดขึ้น XD วันที่ 23 ส.ค.2565