HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 แห่ง ปรับตัวลง ดาวโจนส์ปิดลบ 46 จุด ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงตามราคาน้ำมันดิบ นักลงทุนจับตาการประชุม OPEC+ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ลดลง กังวลเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 1 ส.ค. 2565 ปิดที่ 32,798.40 จุด ลดลง 46.73 จุด หรือ 0.14% ในวันแรกของการซื้อขายเดือนส.ค. นำโดยกลุ่มพลังงานเป็นผลจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอสะท้อนว่าเศรษฐกิจอ่อนตัวลง รวมทั้งนักลงทุนไม่แน่ใจว่าตลาดจะขึ้นต่อได้อีกหรือไม่หลังการปรับตัวขึ้นรอบนี้
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,118.63 จุด ลดลง 11.66 จุด, -0.28%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,368.98 จุด ลดลง 21.71 จุด, -0.18%
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงาน ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.อ่อนตัวลงสู่ระดับ 52.8 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2020 โดยดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อใหม่ที่หดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และการจ้างงานหดตัวลงเป็นเดือนที่ 3
นอกจากนี้ข้อมูล S&P Global แสดงให้เห็นว่าการเตรียมสินค้าที่ผลิตเสร็จพร้อมที่จะขายได้ในทันที (Finished goods inventory) ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2020 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Managers’ Index:PMI )โดยรวมในเดือนก.ค.ของกลุ่มนี้ลดลงเหลือ 52.2 ต่ำสุดในรอบสองปี
กระทรวงพาณิชย์รายงาน การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมิ.ย.ลดลง 1.1% เมื่อเทียบรายเดือนขณะที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานเดือนก.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดวาจะเพิ่มขึ้น 250,000 ตำแหน่ง รวมทั้งยังเกาะติดการรายงานผลประกอบการไตรมาสสอง
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วง หลังราคาน้ำมัน WTI ลดลงแรงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชฟรอนลดลง 2% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 2.6%
หุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 6.1% จากรายงานว่า คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนสหรัฐได้อนุมัติแผนการตรวจสอบและการปรับปรุงเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถส่งมอบเครื่องบินรุ่นนี้ได้อีกครั้ง และนักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนเล่ย์ประเมินว่าจะทำรายได้ราว 17 พันล้านดอลลาร์จากกส่งมอบเครื่องบิน 120 ลำที่ผลิตเสร็จแล้วและรอส่งมอล
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่ปิดลบ 1.6% จากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทำให้กังวลว่าเศรษฐกิจอาจจะถดถอย ท่ามกลางการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
ในช่วงแรกตลาดปรับขึ้นจากผลกำไรของ HSBC รวมทั้งการแสดงความเชื่อมั่นถึงอนาคต และการให้คำมั่นที่จะกลับมาจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสในปีหน้า
แต่ความกังวลว่าเศรษฐกิจน่าจะมีแนวโน้มถดถอยกดดันการปรับขึ้นของตลาด เพราะข้อมูลเศรษฐกิจหลายประเทศชะลอตัวลง โดยยอดค้าปลีกเยอรมนีเดือนมิถุนายน 8.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลในปี 1994 และลดลง 1.6% จากเดือนก่อนหน้า
ภาคการผลิตยูโรโซนเดือนกรกฎาคมหดตัว โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Managers’ Index:PMI )ลดลงมาอยู่ที่ 49.8 จาก 52.1 ในเดือนมิถุนายน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 437.46 จุด ลดลง 0.83 จุด, -0.19%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,413.42 จุด ลดลง 10.01 จุด, -0.13%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,436.86 จุด ลดลง 11.64 จุด, -0.18%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,479.63 จุด ลดลง 4.42 จุด, -0.03%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 4.73 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 93.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 3.94 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 100.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน OPEC+(Organization of Petroleum Exporting Countries and allies) ในวันพุธ