HoonSmart.com>>”ซีเคพาวเวอร์”เผยผลสำเร็จ “ไซยะบุรี พาวเวอร์”ขายกรีนบอนด์ครั้งแรกในประเทศไทย ความต้องการล้น ยอดเสนอขาย 5,000 ล้านบาท ยอดเสนอขายเพิ่มเติมถึง 3,395 ล้านบาท รวม 3 ชุด ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี จำนวน 4,031 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 4.50% หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี 1,258 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 4.75% หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี จำนวน 3,106 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 5.00% ชำระคืนหุ้นกู้ดอกเบี้ยลอยตัว เพิ่มกำไร
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ (CKP) หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ในฐานะกรรมการบริหาร บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ (XPCL) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา XPCL ซึ่ง CKP ถือหุ้นในสัดส่วน 42.5% ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ครั้งที่ 1/2565 ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่นักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ทำให้มียอดขายรวมถึง 8,395 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดเสนอขาย 5,000 ล้านบาท และยอดเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe Option) อีกถึง 3,395 ล้านบาท
ทั้งนี้มีธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้
สำหรับหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ของ XPCL ที่เสนอขายในครั้งนี้ ถือเป็นการเสนอขายครั้งแรก ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง ที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” ขณะที่ XPCL มีอันดับเครดิตองค์กรที่ “A-“ แนวโน้ม ”คงที่” โดยหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ มี 3 ชุด คือ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 จำนวน 4,031 ล้านบาท ที่อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50% หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 จำนวน 1,258 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.75% และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 จำนวน 3,106 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.00%
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า เงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ในครั้งนี้ ทาง XPCLจะนำไปชำระคืนเงินกู้ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อีกทั้งช่วยลดต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของ XPCL และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของ XPCL ในช่วงที่สถานการณ์อัตราดอกเบี้ยกำลังอยู่ในขาขึ้นอีกด้วย
“ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศ ที่เห็นความตั้งใจ และให้ความเชื่อมั่นในระบบการบริหารจัดการองค์กรที่ยึดหลัก ESG รวมถึงมีความมุ่งมั่นในการที่จะผลิตพลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของเครือ CKP และให้การสนับสนุนการออกและเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งแรกในประเทศไทย ของ XPCL ในครั้งนี้เป็นอย่างดี ท่ามกลางสภาพตลาดที่ยังคงมีความผันผวน” นายธนวัฒน์ กล่าว
XPCL เป็นบริษัทที่จดทะเบียนใน สปป.ลาว และได้รับสัมปทานจากรัฐบาล สปป.ลาว ให้ออกแบบ พัฒนา ก่อสร้าง และดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี มีกำลังผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ มีระยะเวลาสัมปทาน 31 ปี นับตั้งแต่วันเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562
XPCL ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำได้ประมาณ 7,600 ล้านหน่วยต่อปี (GWh/Year) ซึ่งจัดเป็นพลังงานทดแทน (Renewable Energy) เป็นพลังงานสะอาดที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถช่วยลดการปล่อย CO2 ได้ถึงประมาณ 3.8 ล้านตัน (tCO2e) ต่อปี โดยการออกหุ้นกู้ Green Bond ของ XPCL ในครั้งนี้ เป็นการออกภายได้ Green Bond Framework ของ XPCL ที่ได้ผ่านการสอบทานโดยองค์กรรับรองมาตรฐานชั้นนำของโลก DNV ในฐานะผู้สอบทานอิสระ (Independent External Reviewer) ว่าเป็นไปตามมาตรฐาน Green Bond Principles 2021, Green Loan Principles 2021 และ ASEAN Green Bond Standards 2018 ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันถึงมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของ XPCL ได้เป็นอย่างดี
ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 XPCL มีรายได้ 2,735 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่มีรายได้ 2,272 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 2,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน