COM7 ทุ่ม 400 ลบ. ลงทุน “พุทธธรรมประกันภัย” ถือหุ้น 89.29%

HoonSmart.com>> HoonSmart.com>> บอร์ด “คอมเซเว่น” เคาะซื้อ “พุทธธรรมประกันภัย” ทุ่มงบ 400 ล้านบาท ส่งบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนถือหุ้น 89.29% มูลค่ารวม 170 ล้านบาท พร้อมให้เงินกู้-เพิ่มทุนอีกไม่เกิน 230 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องหนุนบริษัทดำเนินธุรกิจต่อ ชี้ถือเป็นการขยายธุรกิจประกันวินาศภัย เพิ่มศักยภาพต่อยอดธุรกิจ

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าทีบริหาร บริษัท คอมเซเว่น (COM7) เปิดเผยว่า ทีประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที 26 ก.ค.มีมติอนุมัติให้ บริษัท คอมเซเว่น โฮลดิ้ง จำกัด (Com7 Holding) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน Com7 Holding เข้าลงทุนในบริษัท พุทธธรรมประกันภัย จำกัด (มหาชน) (PTI) โดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 500 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.34 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 170 ล้านบาท โดยคาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.2565

ปัจจุบันบริษัทฯ ไม่มีการถือหุ้นใน PTI โดยภายหลังการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวบริษัทจะถือหุ้นใน PTI คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 89.29% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ PTI (ภายหลังการเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้กับกับ Com7 Holding ในครังนี้ ) ภายหลังการเข้าลงทุน Com7 Holding จะแต่งตั้งตัวแทนเพือเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการใน PTI ตามสัดส่วนการถือหุ้น เนื่องด้วย PTI ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

ภายหลังการเข้าลงทุนของ Com7 Holding ในครั้งนี้ PTI ยังคงต้องการเงินทุนอีกจำนวนประมาณ 230 ล้านบาท เพื่อให้ PTI สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ ซึงคาดว่า Com7 Holding จะเป็นให้ความช่วยเหลือดังกล่าว โดยอาจเป็นการให้กู้ยืมเงินหรือการเพิมทุนอีกจำนวนไม่เกิน 230 ล้านบาท ดังนั้น ในการเข้าลงทุนใน PTI ในครั้งนี้ Com7 Holding จะต้องใช้เงินทังสิ้นไม่เกินจำนวน 400 ล้านบาท

การเข้าลงทุนในกิจการของ PTI ซึ่งประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย จะทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจการประกันวินาศภัย และสามารถเพิ่มศักยภาพ ต่อยอดธุรกิจ และเพื่อรองรับธุรกิจหลักของบริษัทและบริษัทในเครือให้สามารถขยายการให้บริการประกันภัยอุปกรณ์ IT รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิมขึ้น และได้รับผลตอบแทนจากผลประกอบการของ PTI ในอนาคต

สำหรับแหล่งที่มาของเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดภายในของ Com7 Holding ซึงไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือฐานะการเงินของบริษัท

การเข้าลงทุนใน PTI จะเกิดขึ้นต่อเมือ PTI ได้ดําเนินการตามเงือนไขทีกําหนดสําเร็จครบถ้วนแล้ว ซึงรวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะการดําเนินการยกเลิกสัญญาประกันภัยทีไม่สามารถออกกรมธรรม์ได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด หรือบอกเลิกกรมธรรม์ตามที่กําหนด

ด้านคณะกรรมการบริษัทฯ เห็นว่าการเข้าทํารายการในครั้งนี้ มีความสมเหตุสมผลและจะเป็นประโยชน์กับบริษัท นอกเหนือจากการได้รับผลตอบแทนจากการเข้าลงทุนและเงินปันผลจากผลประกอบการของ PTI ในอนาคตแล้ว การเข้าลงทุนใน PTI จะเป็นการขยายประเภทธุรกิจและเพิมช่องทางการขายสินค้าและบริการของกลุ่มบริษัทให้เข้าถึงผู้บริโภคได้เพิมมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมียอดขายและรายได้เพิ่มขึ้นซึ่งจะนําไปสู่การสร้างมูลค่าเพิมให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท

สำหรับ PTI เป็นนิติบุคคลที่จัดตังขึ้นในประเทศไทย ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ซึงมีประเภทการรับประกันภัยทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ การประกันอัคคีภัย การประกันภัยทางทะเลและการขนส่ง การประกันภัยรถยนต์ และการประกันภัยเบ็ดเตล็ด

ณ วันที 25 ก.ค.2565 มีทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 60 ล้านหุ้น และทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 440 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 44 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท

ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที 29 เม.ย.2565 ประกอบด้วย 1. นายปฏิการ มหัทธนารักษ์ สัดส่วน 56.24% 2. นายชนะชัย อ่วมอารีย์ 17.47% 3.นายจักริน จิตคติ 10.23% 4. นางสาวปิ ยะธิดา 7.27% 5. นายวอง จั๊กมิ่ง 6.82% และที่เหลือเป็นรายย่อยอื่น 1.97%