HoonSmart.com>>“SCM” พร้อมลุยธุรกิจลิสซิ่ง ” จัดให้ ลิสซิ่ง” ส.ค.นี้ ส่งซิก 3 ปี จ่อปล่อยสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท “นพกฤษฏิ์” ซีอีโอ” มั่นใจครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น อานิสงส์ไฮซีซั่นของธุรกิจ จ่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่ มั่นใจทั้งปีปั้นรายได้โต 20%
นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (SCM) เปิดเผยว่า ธุรกิจลิสซิ่งของ SCM ภายใต้ชื่อ “บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด” เริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ภายในเดือนสิงหาคม 2565 นี้ ให้บริการสินเชื่อประเภทเช่าซื้อ จำนำทะเบียนรถ และจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ช่วงแรก เน้นกลุ่มเครือข่ายสมาชิกของบริษัทฯ เป็นหลัก หลังจากนั้น บริษัทฯ มีแผนเตรียมขยายการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าทั่วไป
ตั้งเป้าขยายพอร์ตปล่อยสินเชื่อ 3 ปี (2565-2567) ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท คาดว่าภายในปีนี้ สามารถปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มสมาชิกและกลุ่มลูกค้าทั่วไปได้ประมาณ 50 – 100 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนใน “ธุรกิจลิสซิ่ง” ครั้งนี้ ถือเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ของ SCM รองรับความต้องการเงินทุนของกลุ่มสมาชิกขายตรง หรือ MLM ที่มีอยู่กว่า 160,000 รายเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ รวมไปถึงการใช้เงินเพื่อการอุปโภคบริโภค ขณะเดียวกัน “ธุรกิจลิสซิ่ง” เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเติบโตดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจลิสซิ่ง เข้ามาเฉลี่ย 10% ต่อปีของรายได้รวมในปี 2566 และปรับเพิ่มสูงขึ้นในปีถัดไป
ขณะที่ทิศทางธุรกิจของ SCM ครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อานิงสงค์ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ การตลาดออฟไลน์ (Offline) มากขึ้น เพื่อกระตุ้น สอนเทคนิค และวิธีการต่าง ๆ ให้กับกลุ่มเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง สอดรับแผนการขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ 1.การขยายเพิ่มฐานสมาชิก, 2.การเจาะขยายตลาดเกษตรกรและตลาด Silver Age, 3.การขยายดีลเลอร์ต่างประเทศ และ 4.การพัฒนายกระดับความแข็งแกร่งของทีมขยายเครือข่าย
อีกทั้ง บริษัทฯ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product) และผลิตภัณฑ์ทดแทน อาทิ สารกำจัดวัชพืชและเพิ่มฮอร์โมนพืช แบรนด์ “Growing More”, ครีมบำรุงผิวหน้า Brightening แบรนด์ “S Mone”, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการนอนหลับ แบรนด์ “Nutrinal” ถือเป็นผลิตภัณฑ์เรือธง (Flagship) ในปีนี้
“มั่นใจผลการดำเนินงานในปี 2565 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือรายได้รวมเติบโตขึ้น 20 % เมื่อเทียบจากปี 2564 ด้วยฐานสมาชิก ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ไตรมาสที่ผ่านมา เชื่อว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอีก 50,000 ราย จากปัจจุบันที่มีจำนวนสมาชิกกว่า 120,000 ราย ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปี 2565 จะมีจำนวนสมาชิกรวม 170,000 ราย
สำหรับกลยุทธ์หลักขยายฐานสมาชิก คือ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มุ่งพัฒนาบุคลากรเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น รวมถึงการมองหา Brand Ambassador (แบรนด์แอมบาสเดอร์) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา และการขยายตลาดส่งออก ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์ จากปัจจุบันที่มีตัวแทนจำหน่ายแล้วใน 6 ประเทศ ได้แก่ พม่า, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ”