HoonSmart.com>>”ชิค รีพับบลิค” ปิดจองไอพีโอ 360 ล้านหุ้น ที่ราคา 0.90 บาท กระแสตอบรับดี พร้อมเทรด mai 27 ก.ค.นี้ เดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจ บล.เมย์แบงก์ ที่ปรึกษาการเงินมั่นใจ เป็นหุ้นพื้นฐานดี การเงินแข็งแกร่ง มีศักยภาพเติบโต
นายธีร์ จารุศร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน บริษัท ชิค รีพับบลิค (CHIC) เปิดเผยว่า CHIC เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่27 ก.ค. นี้ โดยการเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 360 ล้านหุ้น วันที่ 18-21 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา มีการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
“หุ้น CHIC ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโตระยะยาว ตามแผนการลงทุนขยายธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย รวมถึงรองรับการเติบโตจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้งแนวราบ-แนวสูง อีกทั้งประสบการณ์ของผู้บริหารกว่า 30 ปี ได้รับการยอมรับจากลูกค้าและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศ ซึ่งภายหลังการระดมทุน CHIC จะสามารถสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้น จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง” นายธีร์ กล่าว
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จะส่งผลให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตได้ตามแผนและกรอบเวลาที่ได้วางไว้
“บริษัทมั่นใจว่าการเข้าซื้อขายใน mai ในวันที่ 27 ก.ค. นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐาน ที่มีโอกาสเติบโตทั้งด้านฐานะการเงิน ความสามารถการทำกำไร และศักยภาพการเติบโต ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ CHIC ที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต”นายกิจจากล่าว
วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai บริษัทจะนำเม็ดเงินที่ได้ มาลงทุนขยายสาขาแห่งใหม่ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีการเติบโตและการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นฐานการจำหน่ายและการกระจายสินค้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศลาว คาดเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2566 และบริษัทฯ มีแผนที่จะปรับปรุงและจัดสรรพื้นที่ภายในสาขาบางนาและสาขาราชพฤกษ์ใหม่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ร้านค้าเช่าสร้างแหล่งที่มาของรายได้ประจำ คาดว่าจะเริ่มปรับปรุงพื้นที่ขายแล้วเสร็จและพร้อมเปิดใช้งานในช่วงไตรมาส 4/2565
นอกจากนี้ บริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของบริษัทย่อยในประเทศกัมพูชา เตรียมพัฒนาช่องทางจำหน่าย E-Commerce Website ช่วยเพิ่มยอดขายสร้างรายได้ รวมถึงชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ อีกทั้งบริษัทยังมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ” นายกิจจา กล่าว