KTB-SCB ขึ้นนำกลุ่มธนาคาร ขานรับผลงาน Q2/65 – ราคาหุ้นไม่แพง

HoonSmart.com>>หุ้น KTB-SCB ขึ้นนำกลุ่มธนาคาร ขานรับกำไรไตรมาส 2/65 โดยธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่รายงานกำไรใกล้เคียงคาด รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ (NII) กลุ่มฯ สูงกว่าคาด หนุนด้วยสินเชื่อกลุ่มฯ ขยายตัว ประกอบกับ Yield on loan เพิ่มเป็น 4.57% จาก 4.48% งวดไตรมาส 2/64 ที่ 4.56% ดีขึ้นเกือบทุกธนาคาร ทั้งจากสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นและการรุกสินเชื่อในกลุ่มที่มี Yield สูง โดยคงน้ำหนักเท่าตลาด มองราคาหุ้นในกลุ่มซื้อขายบน PBV ไม่แพง เลือกธนาคารใหญ่ ที่จะได้เปรียบยามดอกเบี้ยขาขึ้น อย่าง BBL(ราคาเป้าหมาย 152 บาท), KBANK(ราคาเป้าหมาย 174 บาท) และ KTB(ราคาเป้าหมาย 18 บาท)

เมื่อเวลา 11.02 น.หุ้นในกลุ่มธนาคารขยับขึ้นนำตลาด นำโดยหุ้น KTB บวก 3.33% มาอยู่ที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 799.80 ล้านบาท
หุ้น SCB บวก 3.19% มาอยู่ที่ 97.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,515.30 ล้านบาท

บล.เอเซีย พลัส มองกำไรไตรมาส 2/65 กลุ่มธนาคารตามคาด โดยกำไรสุทธิกลุ่มธนาคาร (8 ธนาคาร) งวดไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท ทรงตัว QoQ และเติบโต 2% YoY ซึ่งธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่รายงานกำไรใกล้เคียงคาด มี KTB รายงานกำไรดีกว่าคาดการณ์ 10.5%, BAY และ TTB ราว 7%-8% โดยสังเกตเห็นความแตกต่างของนโยบายการตั้งสำรอง (ECL) ในเชิง QoQ (-YoY ทุกธนาคารยกเว้น SCB) อย่าง BAY, KKP และ TTB แม้ คุณภาพสินทรัพย์โดยรวมไม่ได้ฟื้นตัวดี ขณะที่ BBL, KBANK,KTB,SCB และ TISCO มีการตั้ง ECL สูงขึ้นทั้งเพื่อรองรับความไม่แน่นอนจากภาพใหญ่ทางเศรษฐกิจและธนาคารใหญ่อย่าง KBANK และ TISCO มีสัดส่วน NPL/Loan สูงขึ้นราว 0.09% และ 0.05% จากสิ้นงวดไตรมาส 1/65 ตามลำดับ

ภาพรวม ECL กลุ่มฯ อยู่ที่ 4.6 หมื่นล้านบาท (+8% QoQ, -15% YoY จากฐานการตั้งสำรองสูง) คิดเป็น Credit Cost กลุ่มฯ ที่ 1.32% เทียบกับ 1.24% งวดก่อนและ 1.65% ช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่มูลหนี้ NPL ณ สิ้นงวด 2/65 เท่ากับ 5.27 แสนล้านบาท (+0.4% QoQ,+0.3% YTD) ประคองตัวได้ผ่านการบริหารจัดการอย่าง Write-off และขายหนี้ กอปรกับฐานสินเชื่อเติบโต 1.2% QoQ ช่วย Dilute NPL กลุ่มฯ อยู่ที่ 3.76% จาก 3.79% ณ สิ้นงวดก่อนและ 3.83% ณ สิ้นปี 2564

ด้านการดำเนินงานอย่างรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ (NII) กลุ่มฯ สูงกว่าคาด 2% เท่ากับ 1.4 แสนล้านบาท เพิ่ม 3.6% QoQ (+8% YoY) หนุนด้วยสินเชื่อกลุ่มฯ ขยายตัว ประกอบกับ Yield on loan เพิ่มเป็น 4.57% จาก 4.48% งวดก่อน (ไตรมาส 2/64 ที่ 4.56%) ดีขึ้นเกือบทุกธนาคาร ทั้งจากสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นและการรุกสินเชื่อในกลุ่มที่มี Yield สูง โดยรวม NIM กลุ่มฯ อยู่ที่ 2.87% จาก 2.80% งวด 1Q65 และ 2.82% ช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมฯ กลุ่มฯ อ่อนกว่าคาดการณ์ 3% ติดลบ 3% QoQ (-2% YoY) ตามความผันผวนใน Capital Market ลดลงเกือบทุกธนาคาร ยกเว้น TTB ที่ไม่ได้มีสัดส่วนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ บล. มากนัก

สำหรับกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 65 กลุ่มฯ ที่ 1.02 แสนล้านบาท (+7% YoY) คิดเป็นสัดส่วน 53% ของประมาณการกำไรทั้งปี (มีการปรับกำไร KTB เพิ่มราว 14%) ที่ 1.94 แสนล้านบาท (+9% YoY) คงน้ำหนักเท่าตลาด มองราคาหุ้นในกลุ่มซื้อขายบน PBV ราว 0.7 เท่า ถือว่าไม่แพง เลือกธนาคารใหญ่ ที่จะได้เปรียบยามดอกเบี้ยขาขึ้น อย่าง BBL(ราคาเป้าหมาย 152 บาท), KBANK(ราคาเป้าหมาย 174 บาท) และ KTB(ราคาเป้าหมาย 18 บาท)