ผู้ถือหน่วย PROSPECT REIT ไฟเขียว ลุยทรัพย์สินคุณภาพสูงมูลค่าไม่เกิน 1,800 ลบ.

HoonSmart.com>> พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์  จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ ครั้งที่ 1/65 โดยผู้ถือหน่วยมีมติอนุมัติให้กองทรัสต์ PROSPECT ลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม ครั้งที่ 2 ภายในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 และ 3 ซึ่งเป็นอาคารโฉมใหม่  มีพื้นที่เช่าอาคารรวม 70,129 ตารางเมตร มูลค่าเข้าลงทุนไม่เกิน 1,800 ล้านบาท รองรับการขยายตัวของลูกค้ากลุ่มโลจิสติกส์และโรงงานขนาดใหญ่ โดยได้ยื่น Filing ก.ล.ต.แล้ว

อรอนงค์ ชัยธง

นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า “ผลการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ครั้งนี้ ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ถือหน่วยทรัสต์เป็นอย่างดี มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติการลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ของกองทรัสต์ PROSPECT โดยออกหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 180,000,000 หน่วย ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักของการเพิ่มทุนจะนำมาลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม ดำเนินตามกลยุทธ์หลักของกองทรัสต์ผ่านการคัดเลือกทรัพย์สินที่มีคุณภาพสูงในทำเลศักยภาพอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ตลอดจน ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ซึ่งปัจจัยดังกล่าว จะสามารถดึงดูดผู้เช่าให้สนใจทำสัญญาระยะยาว สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่กองทรัสต์และส่งต่อผลตอบแทนที่สม่ำเสมอคืนสู่ผู้ถือหน่วย”

สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ PROSPECT จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ประกอบด้วย อาคารคลังสินค้าและโรงงานพร้อมเช่าแบบ Ready-Built ในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 (ถนนเทพารักษ์) เป็นพื้นที่ในเขตประกอบการทั่วไป (General Zone) พื้นที่เช่า 20,996 ตร.ม. และ โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 (ถนนบางนา-ตราด กม.19) พื้นที่เช่า 49,133 ตร.ม. เป็นพื้นที่ในเขตปลอดอากร (Free Zone) ทั้งหมด ทำให้ผู้เช่าจะมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี ตอบโจทย์ธุรกิจโลจิสติกส์ การนำเข้า-ส่งออกสินค้า ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และทั้งสองโครงการยังตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีม่วง ผู้เช่าสามารถใช้ประโยชน์เพื่อประกอบการอุตสาหกรรมจัดตั้งเป็นโรงงานได้

นอกจากนี้ จุดแข็งของโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 และ 3 ได้รับการออกแบบอาคารโฉมใหม่ที่มีมาตรฐาน ทันสมัยและปรับรูปแบบอาคารเป็นคลังสินค้าหรือโรงงานให้ยืดหยุ่นได้ตามการใช้งานของผู้เช่าแต่ละราย อีกทั้งที่ตั้งโครงการยังสะดวกแก่การขนส่งสินค้า เชื่อมโยงฐานการผลิตและการขนส่งสินค้าทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล

ด้วยรูปแบบการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) และ รูปแบบกรรมสิทธิ์ (Freehold) ภายหลังจากการเข้าลงทุนใน 2 โครงการ จะทำให้ทรัพย์สินแบบ Freehold ของกองทรัสต์เพิ่มขึ้นเป็น 28.2% ของมูลค่าประเมินของทรัพย์สินทั้งหมด ขณะเดียวกัน ทรัพย์สินแบบ Leasehold จะมีระยะเวลาการเช่ายาวขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อกองทรัสต์ในระยะยาว

“มุมมองการลงทุนครึ่งปีหลัง 2565 กองทรัสต์ PROSPECT เชื่อว่าทิศทางเศรษฐกิจของโลกและไทยจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น เศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มสดใสจากตัวเลขการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลเชิงบวกต่อภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและกำลังมาแรง เช่น ธุรกิจอาหาร, ธุรกิจรีไซเคิล, ธุรกิจผลิตโซลาร์เซลล์ เป็นต้น การลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 2 คาดว่าจะเสร็จสิ้นช่วงปลายไตรมาส 4 ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เราจะเดินหน้าตามกลยุทธ์ รักษาอัตราเช่าทรัพย์สินให้อยู่ในระดับสูง ซึ่งที่ผ่านเรามีผู้เช่าหลากหลายอุตสาหกรรมและรักษาอัตราการเช่าเกินกว่า 90% มาโดยตลอด มั่นใจว่าจะสามารถขยายมูลค่าสินทรัพย์แตะ 10,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี ตามเป้าหมายที่วางไว้” นางสาวอรอนงค์ กล่าวปิดท้าย