HoonSmart.com>>”ไอ-เทลฯ” ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง ใหญ่อันดับ 2 ในเอเชีย ติดท็อปเทนโลก ยื่นไฟลิ่งขาย 660 ล้านหุ้น มาถูกที่ถูกเวลา ธุรกิจกำลังโต ก้าวเข้าสู่ตลาดโลกมูลค่า 5 ล้านล้านบาทมากขึ้น บริษัทมีจุดเด่นเพียบ ดึงดูดแบรนด์ใหญ่ระดับโลกจ้างผลิตมากว่า 20 ปี มีนวัตกรรมสินค้าระดับพรีเมี่ยม 4,600 รายการ เลียนแบบยาก ออกสินค้าใหม่ 1,000 รายการ/ปี ดันยอดขาย 3 ปีโตเฉลี่ย 15% สูงกว่าตลาด สู่ยอดรวม 14,529 ล้านบาทในปี 64
นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) หนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง กล่าวว่า ธุรกิจไอ-เทล เกิดจากแนวคิดที่บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ซึ่งเป็นบริษัทค้าอาหารทะเลรายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกและเป็นผู้แปรรูปปลาทูน่ารายใหญ่ เล็งเห็นโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชิ้นส่วนของปลาที่ไม่สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของไทยยูเนี่ยนได้ โดยนำไปแปรรูปเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการสูงรวมทั้งรสชาติอร่อย จนได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้าเจ้าของแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำและเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั่วโลก
“ไอ-เทล มีอายุ 40 ปี เพิ่งยื่นไฟลิ่ง ขอเสนอขาย 660 ล้านหุ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาร่วมเติบโตไปด้วยกัน ถือว่าถูกที่ถูกเวลา ธุรกิจกำลังโต ก้าวเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น ตอบรับการเติบโตของเมกะเทรนด์ Humanization ของครอบครัวที่ดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกคนสำคัญด้วยอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ด้วยนวัตกรรมที่ก้าวล้ำกว่าผลิตภัณฑ์อาหารทั่วไป เพื่อต่อยอดจุดยืนในฐานะ1ใน 10 ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง และใหญ่อันดับ 2 ในเอเชีย คำนึงถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง ครอบครัว และโลกของเรา”นายพิชิตชัยกล่าว
ไอ-เทล มีโมเดลธุรกิจที่โดดเด่นและครอบคลุมทั้งบริการรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) เกี่ยวกับอาหารสัตว์เลี้ยงอย่างครบวงจรให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และการผลิต ภายใต้ตราสินค้าของ ไอ-เทล เอง มีทั้งอาหารแมว อาหารสุนัข และขนมทานเล่น โดยตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงโลกในปี 2564 มียอดขายปลีกประมาณ 131,000 ถึง 135,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5 ล้านล้านบาท ซึ่ง 5 ปีก่อนโตเฉลี่ย 5-6% ต่อปี คาดในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ โตเฉลี่ย 7% ต่อปี อาหารแมวโต 8% มากกว่าอาหารสุนัขโต 7% โดยเฉพาะอาหารแบบเปียกสำหรับแมวและสุนัขโตถึง 11% ขณะที่อาหารแบบแห้งโต 5.3% ณ วันที่ 31 มี.ค.2565 มีรายการผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายรวมกว่า 4,600 ชนิดให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ประมาณ 3/4 อยู่ในอาหารแมว บริษัทมีความชำนาญในการผลิตอาหารแบบเปียกที่ผลิตจากเนื้อปลา ทำให้เติบโตเร็วกว่าอุตสาหกรรม และมีการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง 1,000 รายการ/ปี และยังอยู่ในการจดสิทธิบัตรอีกมากกว่า 10 รายการ
ณ วันที่ 31 มี.ค.2565 ผลิตภัณฑ์ได้รับการจัดจำหน่ายในกว่า 45 ประเทศทั่วโลก แบ่งสัดส่วน 45% จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ในยุโรปมากกว่า 20% ญี่ปุ่น 14.5% และจีน 3.2% ส่วนในประเทศไทยมีเพียง 1% หลังจากนี้บริษัทจะเน้นตลาดประเทศจีนมากขึ้นเนื่องจากมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้าใหญ่ 10 อันดับแรกมีความสัมพันธ์มากกว่า 20 ปี
นายพรชัย ตติยชัยทวีสุข รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ด้านการพาณิชย์ บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า มาร์ส (Mars) แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ที่สุดในโลก เลือกให้ ITC เป็นผู้ผลิตสินค้าให้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโมเดล “One stop” มุ่งเน้นการพัฒนาอาหารสัตว์เลี้ยงร่วมกับพันธมิตรและลูกค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ ของเจ้าของและสัตว์เลี้ยงในทุกแง่มุม ด้วยจุดเด่นของแพลตฟอร์มรับผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง ที่มีบริการครบวงจรตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัว (personalized solution) จนถึงการผลิตในทุกขั้นตอน
ปัจจุบันไอ-เทล มีระบบนิเวศเชิงนวัตกรรมที่รอบด้าน เช่น Global PetCare Innovation Center ที่มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มและส่วนผสมใหม่ เน้นเรื่องความยั่งยืน ศูนย์ Global Innovation Center ของไทยยูเนี่ยน และยังมีโรงงานต้นแบบสำหรับผลิตภัณฑ์สินค้าทดลองให้ลูกค้าก่อนพัฒนาสู่ตลาดจริง รวมทั้งศูนย์ i-Tail Cattery เพื่อศึกษาอาหารสำหรับแมวโดยเฉพาะ นอกจากนี้ บริษัทยังมีระบบ Automation ในการบริหารคลังสินค้า ก่อให้เกิดความผิดพลาดต่ำและลดต้นทุน ได้รับความไว้วางใจยาวนานจากบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ของโลกทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
บริษัทมีโรงงาน 2 แห่งในประเทศไทย นอกจากจะมีการผลิตสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีแล้ว ยังต้องสร้างความแตกต่าง เพื่อให้ลอกเลียนแบบยากที่สุด ในปี 2562 มีสินค้าใหม่จำนวน 1,160 รายการ ปี 2563 โต 6% จำนวน 1,232 รายการ ปี 2564 โต 10% จำนวน 1,356 รายการ ทำให้มียอดขาย 103,227ตัน เพิ่มขึ้น 8% ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา(2562-2564) เติบโตเฉลี่ย 15% ในปี 2564 มียอดขายรวม 14,529 ล้านบาท
นายนคร นิรุตตินานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฎิบัติการ บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทมีกำลังการผลิตรวม 172,786 ตัน/ปี และยังมุ่งเน้นการเลือกแหล่งวัตถุดิบที่น่าเชื่อถือ ส่งมอบสินค้าได้ไม่มีผิดพลาด โดยปลาทูน่าซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 43-49 % ของมูลค่าการสั่งซื้อวัตถุดิบรวม บริษัทได้รับประโยชน์จากการอยู่ในกลุ่มไทยยูเนี่ยนซึ่งเป็นผู้ผลิตปลาทูน่ารายใหญ่ของโลก สำหรับไก่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบสำคัญ ก็ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเนื้อไก่รายใหญ่ของโลก
ปัจจุบัน ITC อยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยมี บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งจะเสนอขายจำนวนไม่เกิน 660 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นเพิ่มทุน 600 ล้านหุ้น และหุ้นเดิมที่เสนอขายโดย บริษัทไทยยูเนี่ยน (TU) จำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุน เพื่อลงทุนในการปรับปรุงโรงงานด้วยระบบและเครื่องจักรอัตโนมัติเพื่อขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ขยายระบบโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการผลิต ลงทุนในระบบคลังสินค้าและติดฉลากอัตโนมัติ รวมถึงต่อยอดศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับบริษัทฯ