HoonSmart.com>> “ณุศาศิริ” ร่วมทุน “มอร์รีเทิร์น” ตั้ง “บริษัท มอร์ แดน ณุศา เอ็นเตอร์เทน” ต่อยอดขยายธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์ เป็นโปรโมเตอร์จัดคอนเสิร์ตนำเข้าศิลปินต่างชาติชั้นนำ เตรียมจัดงาน International Music Festival ระดับโลกที่แรกในเอเชีย ผลักดันไทยกลายเป็น World Event Destination สร้างมูลค่าการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน บนพื้นที่ “เลเจนด์ สยาม พัทยา”
บริษัท ณุศาศิริ (NUSA) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยว -การแพทย์ทางเลือก จับมือร่วมทุนกับ บริษัท มอร์รีเทิร์น (MORE) ประกาศจัดตั้ง บริษัท มอร์ แดน ณุศา เอ็นเตอร์เทน จำกัด ต่อยอดขยายธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์ จากโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท มอร์ แดน เอ็นเตอร์เทน จำกัด บริษัทย่อยของ มอร์รีเทิร์น โดยจะลุยธุรกิจเป็นโปรโมเตอร์จัดคอนเสิร์ตนำเข้าศิลปินต่างชาติชั้นนำ รวมถึงเอกสิทธิ์ในการจัดงาน International Music Festival ระดับโลกที่แรกในเอเชีย พร้อมกับการก้าวเข้าสู่โลกของ Content ที่เป็นยุคของ Shapshifting ที่นำนวัตกรรม Technology Platform เข้ามาเพิ่มกิจกรรมโลกของ คอนเสิร์ตให้สนุกได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่
การร่วมทุนของทั้งสองบริษัทในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มศักยภาพของการท่องเที่ยวของประเทศไทยแบบยั่งยืนโดยจะใช้ International Music Festival และ Music & Event Content เป็น Key Success ของการทำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย เป็นต้นแบบของ World Event & Music Destination โดยใช้เมืองพัทยาที่เตรียมพร้อมในส่วนของโครงสร้างการขนส่งและภูมิทัศน์รวมถึงเทคโนโลยีเป็นพื้นที่นำร่องของการตอบรับนักท่องเที่ยวใหม่ ที่มีเลือกจุดหมายของเมืองท่องเที่ยวที่มี Inspired พร้อม Activity & Music Festival พร้อมสิทธิพิเศษระดับ VIP รวมถึงการท่องเที่ยวผ่าน Technology ที่จะทำให้ช่องทาง การจองห้องพัก ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วเข้าชม Festival และจับจ่ายใช้สอย ง่ายขึ้น กับ Ecosystem ที่เตรียมพร้อมให้สนุกและตอบโจทย์ของนักท่องเที่ยวแนวใหม่ รับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ (NUSA) และ กรรมการบริหาร บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด ประกาศขยายธุรกิจใหม่ เดินหน้าลุยโปรเจกต์ใหญ่เต็มสูบ โดยใช้พื้นที่ เลเจนด์ สยาม พัทยา ที่ทุ่มทุนไว้กว่า 4,500 ล้านบาท เนรมิตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ “SIAM CANNABIS LAND” ดินแดนแห่งพืชมหัศจรรย์ กัญชง กัญชา เป็นหัวหอกในการท่องเที่ยววิถีใหม่ที่มีศักยภาพและความพร้อมในการเป็น Cannabis Destination ทั้งด้านการท่องเที่ยว การแพทย์ทางเลือก เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เป็นพิกัดนำธุรกิจใหม่อย่างเต็มพลัง
นางศิริญา กล่าวว่า เล็งเห็นศักยภาพของ เลเจนด์ สยาม พัทยา ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบที่มีศักยภาพ ประกอบกับในการดำเนินธุรกิจของณุศาศิรินั้น พยายามที่มองหาความต่างและเติมช่องว่างให้กับอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Live Beyond” คิดให้ชีวิตสมบูรณ์แบบ บริษัทฯจึงได้ขยายการลงทุนสู่หัวเมืองท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมี NUSA Tech (ณุศา เทค) กลุ่มธุรกิจใหม่ภายใต้การนำของณุศาศิริฯ แพลตฟอร์ม Safe-T Travel ร่วมมือกับ Depa รวบรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยแบบครบวงจร ใช้เทคโนโลยีเพื่อออกแบบการท่องเที่ยวส่วนบุคคลและด้วยระบบการให้บริการจากกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เป็นเสมือนประตูสู่ประเทศไทย
“เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและเทรนด์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ในเครือบริษัทฯ สามารถครองใจกลุ่มเป้าหมายและก้าวเป็นผู้นำในตลาดอย่างแข็งแกร่ง ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ บริษัทฯ จึงมีแนวคิดที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจ entertainment อย่างเต็มตัว จึงได้ร่วมลงนามในสัญญาจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ บริษัท More Dan Entertain ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ More Return ถือหุ้น 59% ซึ่งมีความแข็งแกร่งในการเป็นผู้จัดงาน Concert / Music Festival และเราคาดหวังว่าจะช่วยเสริมทัพในส่วนของ สถานที Hospitality Venue Destination และ Technology Platform รองรับการเติบโตได้เป็นอย่างดี” นางศิริญา กล่าว
ดร.อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มอร์ รีเทิร์น (MORE) เปิดเผยว่า การตั้งบริษัทร่วมทุนเป็นการนำความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 ฝ่าย มาต่อยอดเพิ่มโอกาสในการเพิ่มมูลค่าของการท่องเที่ยว โดยช่วยกันร่วมสร้างปรากฏการณ์ เทศกาลดนตรีระดับโลก ที่จะกลายเป็น Key Content ในการร่วมสร้างรายได้ รวมถึงเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาโครงการ Travelling Technology Platform เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงผลักดัน เลเจนด์ สยาม พัทยา ให้กลายเป็นศูนย์กลางของ World Event Destination
“ผมเชื่อมั่นว่าการขยายธุรกิจสู่ตลาดเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จะสร้างผลประกอบการทางธุรกิจที่ดีอย่างเห็นได้ชัด และความร่วมมือกับ partner ที่เข้มแข็ง ในครั้งนี้ จะสามารถช่วยปลุกกระแสผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น “World Music Destination ที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึง ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้ง เพื่อรองรับการเปิดประเทศหลังจากสถานการณ์โควิด ที่ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวซึมมาเป็นระยะเวลานานเกือบสามปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งใน hub ของการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนอยู่แล้ว” ดร.อมฤทธิ์ กล่าว