ค่ายกสิกรฯให้แนวรับ 1,500-1,490 จุด จับตาค่าเงินอ่อนเกิน 37 บาทสัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยคาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบต่ำกว่า 1,500 -1,555 จุด ตามกำไรบจ. ฟันด์โฟลว์ สถานการณ์โควิด ด้านค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยมองแนวโน้มระดับ 36.30-37.10 บาท  จากสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าสุดในรอบ 15 ปี 8 เดือนที่ 36.73 บาท 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (18-22 ก.ค.) ว่า ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,500 และ 1,490 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,545 และ 1,555 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 ของบริษัทจดทะเบียน ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงสถานการณ์โควิด

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. และดัชนี PMI เดือนก.ค. (เบื้องต้น) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม ECB และ BOJ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. และดัชนี PMI เดือนก.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนก.ค. ของจีน

ในวันศุกร์ (15 ก.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,533.37 จุด ลดลง 1.57% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 55,086.14 ล้านบาท ลดลง 15.27% ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.32% มาปิดที่ 564.78 จุด

ตลาดหุ้นร่วงลงแรงจากสัปดาห์ก่อน เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศท่ามกลางความกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่า 0.75% หลังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ออกมาสูงกว่าที่คาด นอกจากนี้หุ้นยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและการระบาดของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย กระตุ้นแรงขายในหุ้นหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ไฟแนนซ์ และอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลง

สำหรับค่าเงินบาท สัปดาห์ถัดไป (18-22 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 36.30-37.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังอ่อนค่าไปที่ 36.73 บาท ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 15 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2549 ท่ามกลางแรงหนุนที่แข็งแกร่งของเงินดอลลาร์ฯ และสกุลเงินเอเชียและเงินหยวนยังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลต่อสัญญาณที่อ่อนแอของเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงต่อการระบาดของโควิดในจีนด้วยเช่นกัน

ขนาดการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดกลายเป็นประเด็นหลักของตลาดในสัปดาห์นี้ หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อ (ทั้ง CPI และ PPI) เดือนมิ.ย. พุ่งสูงขึ้นกว่าที่คาด และทำให้ตลาดเริ่มมีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายถึง 1.00% ในการประชุมรอบ 26-27 ก.ค. นี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดีการคาดการณ์ดังกล่าวชะลอลงบางส่วน หลังเจ้าหน้าระดับสูงของเฟดให้ความเห็นในเชิงสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในรอบนี้

ในวันศุกร์ที่ 15 ก.ค. 2565 เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 15 ปี 8 เดือนที่ 36.73 ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 36.60 เทียบกับระดับ 36.02 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 ก.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 11-15 ก.ค. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,141 ล้านบาท ขณะที่มีสถานะเป็น NET OUTFLOW ออกจากตลาดพันธบัตร 2,079 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตรไทย 2,063 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 16 ล้านบาท)