AEONTS กำไร Q1/65 หด 3% จากผลขาดทุนด้านเครดิตฯโต 28%

HoonSmart.com>>”อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์)”(AEONTS) กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 (สิ้นสุดพ.ค.) 1,115 ล้านบาท ลดลง 35 ล้านบาท หรือ 3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 1,563 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 338 ล้านบาท หรือ 28% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีการตัดจำหน่ายหนี้ด้อยคุณภาพ (written off) เพิ่มขึ้น อีกทั้งตั้งสำรองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS แจ้งว่า ในไตรมาสแรกของปีบัญชี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 บริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงานรวม 1,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท หรือร้อยละ 1 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จ ำนวน 1,115 ล้านบาท ลดลง 35 ล้านบาท หรือร้อยละ 3 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากไตรมาสก่อน หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 4.46 บาท

ไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีรายได้จากงบการเงินรวม 5,485 ล้านบำท เพิ่มขึ้น 443 ล้านบาท หรือร้อยละ 9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากรายได้ของบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าที่เพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสนี้ และรายได้อื่นจากหนี้สูญรับคืนเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 บริษัทฯ มีลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อกว่า 2.6 ล้านคน ประกอบไปด้วยลูกค้าในกรุงเทพฯ ร้อยละ 30 และลูกค้าในต่างจังหวัดร้อยละ 70 สำหรับธุรกิจในประเทศกัมพูชา เมียนมาร์ และลาว มีลูกค้ารวมมากกว่า 118,000 ราย โดยคิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนลูกค้าของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ เน้นส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค

ค่าใช้จ่ำยหลักของบริษัทฯ ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบริหาร ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและต้นทุนทางการเงิน โดยบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในไตรมาสที่ 1 ของปีบัญชี 2565 ทั้งสิ้นจำนวน 4,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 433 ล้านบาท หรือร้อยละ 12 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

โดยในไตรมำส 1/2565 บริษัทฯ มีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 1,563 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 338 ล้านบาท หรือร้อยละ 28 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากมีการตัดจำหน่ายหนี้ด้อยคุณภาพ (written off) เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ได้ตั้งสำรอง Management Overlay เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจ
ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และอัตรา Net Credit Cost ที่ร้อยละ 5.1 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.1 ในไตรมาสที่ 1/2564 แต่ลดลงจากร้อยละ 5.8 ในไตรมาสก่อน