4 โบรกฯ ส่องหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลขยับขึ้นรับโควิดระบาดระลอกใหม่

HoonSmart.com>> 4 โบรกเกอร์ส่องหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลขยับขึ้นทั่วหน้า นำโดย RAM-BCH-THG รับ Sentiment เชิงบวกจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ แนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยสายพันธุ์ใหม่อันตรายและรุนแรงกว่าเดิมที่เชื้อสามารถลงปอดเร็วขึ้น ทำให้อัตราการครองเตียงของโรงพยาบาลสูงขึ้น พร้อมเชียร์หุ้นเด่น BCH และ CHG

เมื่อเวลา 12.10 น.หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลขยับขึ้นทั่วหน้า นำโดยหุ้น RAM บวก 5.94% มาอยู่ที่ 53.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 178.42 ล้านบาท
หุ้น BCH บวก 5.70% มาอยู่ที่ 20.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 607.39 ล้านบาท
หุ้น THG บวก 5.26% มาอยู่ที่ 65.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25nบาท มูลค่าซื้อขาย 348.86 ล้านบาท
หุ้น RPH บวก 4.51% มาอยู่ที่ 6.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 18.13 ล้านบาท
หุ้น BDMS บวก 4.00% มาอยู่ที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,106.11 ล้านบาท
หุ้น CHG บวก 3.16% มาอยู่ที่ 3.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 365.53 ล้านบาท

บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า ตามที่คุณหมอนิธิพัฒน์ (หมอศิริราช) ออกมาเตือนว่าโควิดระบาดระลอกใหม่ (สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5) ตัวเลขจริงน่าจะติดประมาณวันละ 50,000 ราย นั้นอันตรายกว่าสายพันธุ์เดิม BA.2

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาล จากแนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยสายพันธุ์ใหม่อันตรายและรุนแรงกว่าเดิมที่เชื้อสามารถลงปอดเร็วขึ้น ทำให้อัตราการครองเตียงของโรงพยาบาลสูงขึ้น โดยมองว่ากลุ่มโรงพยาบาลสามารถเล่นในระยะสั้นนี้ได้ โดย BCH ได้ประโยชน์มากที่สุด จากจำนวนเตียงของโรงพยาบาล และได้ผลประโยชน์จากกลุ่มประกันสังคม คงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท อิง DCF และคงประมาณกำไรสุทธิปี 65 ที่ 4,685 ล้านบาท (-32% YoY) มีโอกาสปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้น จากโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ที่รุนแรงกว่าคาด

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินไทยติดโควิดมากขึ้นดีกับหุ้นโรงพยาบาล อย่าง BCH,CHG,BH,BDMS,RJH โดยเชียร์”ซื้อ”หุ้น BCH หากโควิดกลับมา กำไรจะดีขึ้น เริ่มมีการพูดถึงโควิด สายพันธ์ BA.4 และ BA.5 อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อกลับมาสูงถึง 4-5 พันรายต่อวัน ขณะที่ BCH ได้ชื่อว่าเป็นโรงพยาบาลที่มีความสามารถในการให้บริการด้านโควิดอันดับ 1 ของไทย แม้ได้คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ลดลง QoQ และมีแนวโน้มลดต่อในหลายไตรมาสข้างหน้า เนื่องจากรายได้เกี่ยวกับโควิดลดลง แต่ยังต้องติดตาม ก.ค.-ส.ค.65 ให้ราคาพื้นฐาน 21.50 บาท

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)แนะนำ”เก็งกำไร”หุ้น BCH คาดว่าหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมี Sentiment บวก จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เร่งตัวขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มรายได้รักษาโควิดมีโอกาสทรงตัวระดับสูงในครึ่งหลังปี 5 แม้การเบิกค่ารักษาจากภาครัฐฯทำได้ลดลง หลังประกาศเป็นโรคประจำถิ่น แต่ราคาหุ้นปัจจุบันก็ซื้อขายไม่แพง ที่ระดับ PER2566 ที่ 20.1 เท่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/65 คาดเติบโต YoY ทั้งจากยอดผู้รักษาโควิด และโรคปกติที่เติบโต

ระดับ Double Digits หลังเปิดเมือง ส่งผลให้การรักษาโรคซับซ้อนที่ถูกเลื่อนออกไปช่วงโควิดเริ่มกลับเข้าสู่ระดับปกติ

พร้อมแนะนำ”เก็งกำไร”หุ้น CHG หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนรายได้จากในประเทศในสัดส่วนสูง ได้ Sentiment บวกจากยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่เร่งตัวขึ้น ขณะที่กำไรไตรมาส 2/65 คาดเติบโต YoY

บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำหุ้น BCH ราคาเป้าหมาย 23.7 บาท คาดว่ากำไรสุทธิปี 65 ของ BCH ผ่าน Peak ไปแล้วในไตรมาส 1/65 ในเบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/65 จะลดลงจากไตรมาส 2/64 ที่มีกำไรสุทธิ 1,146 ล้านบาท และลดลงจากไตรมาส 1/65 ที่มีกำไรสุทธิ 2,028 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่ารายได้ค่ารักษาเติบโตเล็กน้อย y-y แต่ลดลง q-q ตาม รายได้เกี่ยวกับโควิด คาดว่าลดลง y-y และ q-q ขณะที่รายได้ลูกค้าที่ไม่ใช่โควิดเพิ่มขึ้นชดเชยไม่ทัน นอกจากนี้การมีเครือข่ายโรงพยาบาล และมีศูนย์โรคเฉพาะทางเพิ่มขึ้น จะทำให้ระยะสั้นต้นทุนดำเนินงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่ารายได้ที่เกิดขึ้น กระทบ %Gross margin ลดลง จากไตรมาส 2/64 ที่ 46.3% และไตรมาส 1/65 ที่ 45.1% แต่มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันตอบรับไปบ้างแล้ว

นอกจากนี้ ได้รับ Sentiment เชิงบวกของการระบาดของโควิดระลอกใหม่ โดยรายได้เกี่ยวกับโควิดมีสัดส่วน 62.9% ของรายได้ไตรมาส 1/65

ส่วน CHG ราคาเป้าหมาย 4.2 บาท แนวโน้มไตรมาส 2/65 เบื้องต้นคาดว่าจะมีกำไรสุทธิราว 700 ล้านบาท (+22%y-y -48%q-q) ตามทิศทางรายได้ธุรกิจโรงพยาบาล (+37%y-y -20%q-q) มีผลของฤดูกาลและการให้บริการเกี่ยวกับโควิด คาดว่ามีสัดส่วนรายได้ลดลงจาก 39% ในไตรมาส 2/64 มีรายได้โควิดราว 800 ล้านบาท และ 55% ในไตรมาส 1/65 มีรายได้โควิดราว 1,980 ล้านบาท นอกจากนี้คาดว่าอัตราครองเตียงมีแนวโน้มลดลง 81% ในไตรมาส 2/64 และ 78% ในไตรมาส 1/65 จะทำให้มี %Gross margin ต่ำกว่าระดับ 40% ลดลงจาก 41.8% ในไตรมาส 2/64 และ 52.3% ในไตรมาส 1/65

นอกจากนี้ มองว่าข่าวกรมการแพทย์สั่งให้ รพ.ในสังกัด เตรียมพร้อมรับมือผู้ป่วยโควิดที่จะเพิ่มขึ้น จะส่งผลบวก ต่อกลุ่มโรงพยาบาลโดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดกลาง