PTTEP บวก 2.52% เล็งกำไร Q2/65 ทำนิวไฮ

HoonSmart.com>>หุ้น PTTEP บวก 2.52% เล็งกำไรไตรมาส 2/65 ทำสถิติใหม่ จากปริมาณการขายและราคาขายเฉลี่ย (ASP)ที่ดีขึ้น และคาดว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ระดับสูงต่อเนื่องไปในครึ่งหลังปี 65 จากตลาดน้ำมันดิบโลกที่น่าจะตึงตัวต่อไปจากผลกระทบจากการคว่ำบาตรรัสเซีย

เมื่อเวลา 10.19 น. หุ้น PTTEP บวก 2.52% มาอยู่ที่ 163.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 757.11 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 162 บาท ขึ้นสูงสุด 165 บาท และต่ำสุด 161.50 บาท

บล.เคทีบีเอสที แนะนำ”ซื้อ”หุ้นบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ราคาเป้าหมาย 190.00 บาท ประเมินว่า PTTEP จะรายงานกำไรไตรมาส 2/65 ที่เป็นสถิติใหม่ที่ 1.80 หมื่นล้านบาท (+153% YoY, +72% QoQ) โดยสูงขึ้น YoY จากราคาขายเฉลี่ย (ASP) และปริมาณขายที่ดีขึ้น ขณะที่ดีขึ้น QoQ หลักๆจากผลขาดทุนจากกิจกรรมป้องกันความเสี่ยง (hedging loss) ที่ต่ำลง

ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะเริ่มรับรู้ปริมาณขายจากโครงการ G1/61 (เอราวัณ) G2/61 (บงกช) (บางส่วน) และ Algeria Hassir Bir Rekaiz (HBR) Phase I ในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ เชื่อว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ยืนสูงในครึ่งหลังปี 65 อีกทั้งน่าจะเห็นการปรับขึ้นของราคาก๊าซอย่างต่อเนื่องจากผลกระทบที่ล่าช้า (lagged effect) ต่อราคาน้ำมันดิบ โดยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 65/66 ที่ 6.91/7.30 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นจาก 4.33 หมื่นล้านบาทในปี 64 โดยมีสมมติฐานที่สำคัญ ดังนี้ คาดราคาขายน้ำมันดิบเฉลี่ยดูไบที่ 105.0 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และ 100.0 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ในปี 65-66 เทียบกับ 69.4 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ในปี 64

นอกจากนี้ คาด Gas ASP ที่ 6.50 เหรียญสหรัฐฯ/mmbtu และ 6.20 เหรียญสหรัฐฯ/mmbtu เทียบกับ 5.7 เหรียญสหรัฐฯ/mmbtu ในปี 64 และประเมินปริมาณขายเฉลี่ยจะสูงขึ้นเป็น 467/462 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน (kboed) ในปี 65-66 สูงขึ้นจาก 416kboed

ด้านราคาหุ้น outperform SET 39.6% ใน 6 เดือนที่ผ่านมา ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น โดยราคาปิดล่าสุดสะท้อน 2565 PBV ที่ 1.40x (ประมาณ +1.0SD บนค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)

ทั้งนี้ เชื่อว่าบริษัทจะรายงานกำไรที่โดดเด่น YoY และ QoQ ในไตรมาส 2/65 จากปริมาณการขายและ ASP ที่ดีขึ้น และคาดว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ระดับสูงต่อเนื่องไปในครึ่งหลังปี 65 จากตลาดน้ำมันดิบโลกที่น่าจะตึงตัวต่อไปจากผลกระทบจากการคว่ำบาตรรัสเซีย