BPP-TPIPP น่าสนใจ

บล.เอเซียพลัสวิเคราะห์หุ้นโรงไฟฟ้า ราคาขึ้นไปมาก สวนทางกำไรไตรมาส 3 และ 4 เริ่มนิ่ง หาโอกาสจังหวะตลาดปรับฐาน เลือก BPP-TPIPP-BGRIM

บล.เอเชียแนะนำให้หาโอกาสหุ้นปรับฐาน เลือกหุ้นโรงไฟฟ้าที่มีกำไรเติบโต เช่น BPP ให้ราคาเป้าหมาย 30 บาท และ TPIPP ราคา 7.30 บาท นอกจากนี้ชอบ BGRIM ให้ราคาเป้าหมาย 32 บาท เพราะมีงานในมือ ส่งผลให้แนวโน้มธุรกิจเติบโตต่อไปได้

โดยเฉพาะ BPP ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นน้อย(laggard) ขณะที่แนวโน้มกำไรมีโอกาสเติบโตทำ new high ในช่วง 2 ปีข้างหน้า จากการทยอยรับรู้โครงการต่างๆ ในมือกว่า 669 เมกะวัตต์ตามการถือหุ้น รอทยอย COD ในช่วงปี 2561-2566 คาดกำไรสุทธิปี 2561-2562 จะเติบโต 16.3% และ 23.6% ตามลำดับ นอกจากนี้ BPP ยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการพลังงานทดแทนใหม่ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ถือเป็น upside ส่วนเพิ่มในอนาคต ราคาปัจจุบันมี upside 16.5% และมีอัตราผลตอบแทนปันผลเฉลี่ยราว 3%

ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน การเติบโตเริ่มน้อยลงจากโอกาสการขยายกำลังการผลิตที่ลดลง ทำให้มีการลดระดับพี/อีลดลงจากที่เคยซื้อขายกันบนพี/อีสูงๆ

ทั้งนี้แม้กำไรปกติกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ฝ่ายวิจัยศึกษา (GUNKUL, EA, BCPG, PSTC, DEMCO และ TPIPP) ในปี 2561 คาดจะเติบโตกว่า 39.6 % และ เติบโต 44% ในปี 2562 แต่เกิดจาก TPIPP ส่วนระยะสั้นคาดกำไรปกติกลุ่มฯงวดไตรมาสที่ 3 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากงวดไตรมาส 2 และเริ่มทรงตัวในงวดไตรมาสที่ 4 ขณะที่ราคาหุ้นรายตัวในกลุ่มฯ ได้ตอบรับกับปัจจัยกดดันไประดับหนึ่งแล้ว ทำให้ราคาเริ่มมี upside เน้นเลือกหุ้นรายตัว

“ชอบ TPIPP มีโอกาสที่กำไรจะทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสในช่วงที่เหลือของปี รวมถึงแนวโน้มกำไรปกติปี 2561-2562 คาดจะทำ new high จากการทยอยรับผลบวกโครงการโรงไฟฟ้าในมือที่ผลิตเชิงพาณิชย์ อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่ให้ปันผลสม่ำเสมอทุกไตรมาส โดยมีปันผลอยู่ในระดับที่ดี เฉลี่ยราว 5% “บล.เอเซียพลัสระบุ

ปัจจุบันโอกาสการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่หรือ IPP และ ขนาดเล็ก (SPP) ใหม่ๆ ดูจะน้อยลง เพราะอุตสาหกรรมอยู่ภาวะ oversupply ขณะที่การเข้าแข่งขันของผู้ประกอบการรายกลาง-เล็กมากขึ้น ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนโครงการ (IRR) ลดลงเหลือ 10% หรือต่ำกว่า เทียบกับอดีตที่เคยอยู่สูงถึง 15-20%