HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดร่วง 17.85 จุด ตื่นตระหนก (Panic) หลังธปท.จะแถลงเย็นนี้ และตลาดต่างประเทศร่วงกันหลังประธานเฟดเน้นขึ้นดอกเบี้ยเพื่อกดเงินเฟ้อแม้เศรษฐกิจจะถดถอย นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,369.02 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,148.17 ล้านบาท แนวโน้มวันพรุ่งนี้ปรับลงสลับรีบาวด์ แนวรับ 1,560-1,550 แนวต้าน 1,580 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 30 มิ.ย.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,568.33 จุด ลดลง 17.85 จุด หรือ -1.13% มูลค่าซื้อขาย 71,991.49 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,591.23 จุด ต่ำสุด 1,564.82 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,369.02 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 195.24 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,148.17 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 583.92 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงค่อนข้างมาก ตื่นตระหนก (Panic) จากเรื่องที่แบงก์ชาติจะแถลง”การปรับทิศทางการดำเนินมาตรการทางการเงินภายใต้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง”ในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งปกติแบงก์ชาติไม่เคยนัดแถลงแบบนี้ ทำให้คนสงสัยและมองในเชิง Negative ก่อนจากไม่มั่นใจว่าเป็นเรื่องอะไร อาจเป็นเรื่องทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ได้ หรือแค่แถลงรอบครึ่งปีก็ได้ ตรงนี้ไม่มีใครรู้
นอกจากนี้ ตลาดต่างประเทศต่างก็ปรับตัวลงกันด้วย ทั้งตลาดในภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวขึ้นหลัง PMI ภาคการผลิตของจีนออกมาดีขึ้นจากผ่อนคลายล็อกดาวน์ และตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ต่างก็ปรับตัวลง หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังเน้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกดให้เงินเฟ้อลง แม้เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ทำให้ตลาดมองว่าเฟดคงจะใช้ยาแรงเพิ่ม อีกทั้งจะเข้าสู่เดือนก.ค.แล้วก็จะมีการประกาศ GDP ทั้งของจีน และสหรัฐฯ ซึ่งถ้าออกมาหดตัวก็จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอาจจะไม่ดีไปด้วย นักลงทุนจึงเลือกที่จะขายก่อน
สำหรับตลาดหุ้นไทยก็เริ่มจะเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 และการพรีวิวิผลประกอบการ ส่วนใหญ่ก็จะถูกปรับลดประมาณการ อันเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ปรับตัวขึ้นด้วย ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทสูงขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ก็จะเลือกขายทำกำไรออกมาก่อน
พร้อมกันนี้ให้ติดตามการแถลงของแบงก์ชาติในช่วงเย็นนี้ และการพรีวิวผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะออกมาเรื่อย ๆ รวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค.ของสหรัฐฯที่จะออกมาในคืนนี้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 1 ก.ค..2565 ตลาดฯคงจะปรับตัวลงสลับรีบาวด์ขึ้น เนื่องจากโมเมนตัมยังเป็นลบอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK อยู่ที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.33% มูลค่าซื้อขาย 2,774.27 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 194.50 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ -2.26% มูลค่าซื้อขาย 2,595.71 ล้านบาท
WPH อยู่ที่ 4.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.38 บาท หรือ +8.84% มูลค่าซื้อขาย 2,546.77 ล้านบาท
PTT อยู่ที่ 34.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -2.86% มูลค่าซื้อขาย 2,527.54 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 159.50 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ -2.45% มูลค่าซื้อขาย 1,998.83 ล้านบาท