HoonSmart.com>>CEN พลิกโฉมธุรกิจ สู่การเติบโตแบบก้าวกระโดด เน้นกลยุทธ์ Recurring Income สู่การปั้นกำไรโตต่อเนื่อง เดินเกมรุกตอบโจทย์ Holding Company ล่าสุดเอ็มโอยูธบล. หนึ่ง รุกธุรกิจหลักทรัพย์
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค (CEN) เปิดเผยว่า บริษัท ฯ จัดเตรียมงบลงทุน เพื่องานวิจัยและพัฒนา (R&D) ธุรกิจกัญชา-กัญชง โดยผนึกกำลังกับนักวิชาการและเภสัชกร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ รุกตลาดในประเทศและต่างประเทศ การลงทุนดังกล่าว เป็นการพลิกกลยุทธ์สู่ Recurring Income
เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจกัญชา สร้างมูลค่ามหาศาลและตอบโจทย์ผู้บริโภค ด้วยนวัตกรรมและสารสกัดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย พัฒนาสเต็มเซลล์จากพืช (Plant Stem Cell) และพืชที่มีคุณประโยชน์กับร่างกายหลายส่วน รวมทั้งจากกัญชา (Cannabis Stem Cell) เพื่อให้เซลล์ต้นกำเนิดมีความสามารถในการสร้างเซลล์ทดแทนได้อย่างไม่จำกัด เพื่อทดแทนหรือซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เน้นการตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยเตรียมวางแผนร่วมทุนกับบริษัทวิจัยและพัฒนาที่เกาหลี
สำหรับ CEN ได้ศึกษาการลงทุนในธุรกิจกัญชามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เริ่มตั้งแต่ธุรกิจการปลูกกัญชาที่เก็บช่อดอกขาย การสกัดสาร CBD จากช่อดอกกัญชา และการนำสารสกัด CBD ที่ได้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารและเวชภัณฑ์กับผู้ผลิตหลายราย โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ปลดล็อกกัญชา กัญชง ออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากัญชา-กัญชง เป็นเมกะเทรนด์โลกที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เป็นตลาดที่มีศักยภาพสามารถเชื่อมโยงไปสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรมอื่น ๆ ตลอดจนต่อยอดเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงและสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม การแพทย์ เครื่องสำอาง ฯลฯ นำไปสู่การก้าวขึ้นมาเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทย คาดเม็ดเงินสะพัดในตลาดทะลุหลักแสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
การเข้าศึกษาลงทุนครั้งนี้ เป็นการทำธุรกิจร่วมกันหรือ Partner กับคู่ธุรกิจที่มีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญและความชำนาญเกี่ยวกับกัญชา-กัญชง ซึ่ง CEN จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการลงทุน ขยายตลาดสร้างยอดขายในประเทศและต่างประเทศผ่านพันธมิตรที่มีศักยภาพของ CEN จะมีทั้งผลิตภัณฑ์ด้านความงามและการรักษาบำบัดทางการแพทย์
สอดคล้องแผนการดำเนินงานในกลุ่ม Health & Treatment Clinic เพื่อรองรับกลุ่มผู้บริโภคทั้งคนเมืองและต่างชาติ ที่มีปัญหาด้านสุขภาพต่าง ๆ โดยจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้บริการ ทำให้ผู้บริโภคทุกระดับเข้าถึงสินค้าได้ง่ายและเร็วมากขึ้น พร้อมมั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของตนเอง อีกทั้งการเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาจะเสริมรายได้ให้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด กลุ่มธุรกิจเดิม ซึ่ง CEN ถือหุ้น 100% ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานด้วยโรงไฟฟ้าระบบ Cogeneration จำหน่ายพลังงานให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมกระเบื้องขนาดใหญ่หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นการทำธุรกิจที่สร้างรายได้และผลกำไรแบบ Recurring Income ตลอดสัมปทาน 15 ปี
นายเชิดศักดิ์ กล่าวถึงบริษัท สกาย ทาวเวอร์ (STOWER) ว่า STOWRE มุ่งสู่ความเป็นผู้นำตลาดของประเทศไทย ในการลงทุนก่อสร้างเสาโทรคมนาคมให้เช่าที่ประเทศฟิลิปปินส์ สร้างมูลค่าการเติบโตแบบ Hi-Growth เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำ และมี EIRR กว่า 25% ถือเป็นปีที่ STOWER รุกเข้าสู่ธุรกิจเทเลคอมในต่างประเทศเต็มรูปแบบ และกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ และมี Up site จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องจากการเข้าลงทุนใน QROI Network Services Inc. (QNSI) ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการด้านโทรคมนาคมในฟิลิปปินส์อันดับ 1 (Telecom Implementation Service) โดยได้รับการรับรองจากบริษัทชั้นนำระดับโลก อาทิ Huawei และ Ericsson
ล่าสุด STOWER ผนึกพันธมิตร T3 Technology ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย ร่วมกันรุกตลาดบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต และ IoT ในฟิลิปปินส์ ต่อยอดธุรกิจให้เช่าเสาเทเลคอมของ STOWER ที่มีลูกค้าในมือเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกัน คาดว่ารายได้ในฟิลิปปินส์กว่า 3,000 ล้านบาทใน 3 ปี ตามรอย T3 Technology ที่ประสบความสำเร็จในไทย ยอดขายล่าสุดปีละกว่า 3,000 ล้านบาท จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจในปีนี้ STOWER ได้รับการสนับสนุนเงินเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเพื่อนำมาสร้างและส่งมอบเสาส่งโทรคมนาคมตามสัญญาที่รับเพิ่มมา
ส่วนธุรกิจบริษัท ระยองไวร์ ( RWI ) มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงิน พร้อมที่จะจัดสรรงบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท เพื่อขยาย ต่อยอด หรือแตกสายผลิตภัณฑ์จากธุรกิจเดิมที่มีความเชี่ยวชาญ โดยอยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการดัดแปลงหรือเปลี่ยนวิธีการผลิต อีกทั้งมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับวัสดุอุตสาหกรรมก่อสร้าง เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุพื้นฐานของโครงการสาธารณูปโภค ทำให้ได้ต้นทุนที่ต่ำลงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเสริมสร้างรายได้ที่มั่นคงต่อเนื่อง เพื่อรองรับความผันผวนของราคาเหล็กโลกและค่าอ่อนตัวของเงินบาท
ทั้งนี้อานิสงส์ เชิงบวกส่งผลให้ CEN มองหาโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ โดยการขยายไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิม โดยช่วงที่ผ่านมา CEN ลงนามข้อตกลงเบื้องต้นกับบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง เข้าลงทุนธุรกิจหลักทรัพย์ ให้บริการเกี่ยวกับหลักทรัพย์ครบวงจร สามารถเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจ Holding Company ของบริษัทฯ
รวมทั้งศึกษาธุรกิจ Trading ที่เป็นตัวแทนนำเข้าและจำหน่ายกากอุตสาหกรรมหรือ Slag ให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์หรือโรงงานขนาดใหญ่ เพื่อไปใช้ทดแทนวัสดุในประเทศที่มีราคาสูงขึ้น นำมาช่วยลดต้นทุนและทดแทนการใช้ขี้เถ้าหรือใช้แทนหินคลุกในโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ได้ต้นทุนที่ต่ำลง จะรับรู้รายได้จากการรับกำจัดกากอุตสาหกรรมที่มีใบรับรองว่าไม่มีมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม หรือการหา Synergy ร่วมกันกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ