SAAM ทรานส์ฟอร์มสู่ธุรกิจ Game-Metaverse ปักธงผลงานปีนี้โต 2-3 เท่าตัว

HoonSmart.com>>SAAM ทรานส์ฟอร์ม สู่ธุรกิจ Game Solutions และ Metaverse Solutions ควักกระเป๋า 30 ล้านบาท  ซื้อหุ้น 40% ในบริษัท “นานุค” ให้บริการ Game Digital Content Creator  คาดผลประกอบการปีนี้ โตมากกว่าปีก่อนอย่างน้อย 2-3 เท่าตัว

พดด้วง คงคามี

นายพดด้วง คงคามี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ “SAAM” กล่าวว่า การส่งบริษัทย่อย เอสเอเอเอ็ม โซลูชั่น ( SAAM-S) บริษัทย่อยเข้าถือหุ้น บริษัท นานุค (NANUQ) จำนวน 8,000 หุ้น หรือ 40% ราคาหุ้นละ 3,750 บาท รวม 30 ล้านบาท โดยกู้ยืมเงินจาก SAAM  คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วันนับจากวันที่คณะกรรมการบริหารมีมติ

NANUQ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ อิ๊กลู สตูดิโอ (IGLOO)  มุ่งเน้นการเป็นผู้ให้บริการสร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์สำหรับเกม (Game Digital Content Creator) ออกแบบสร้างสรรค์เกม (Game Design) และผลิตเกมอย่างครบวงจร (Game Production) ในรูปแบบของเกมคอมพิวเตอร์ เกมโทรศัพท์มือถือ รวมถึงเกม NFT โดยให้บริการตั้งแต่ขั้นตอนการร่างไอเดียไปจนถึงการผลิตเกมที่สมบูรณ์

ปัจจุบัน NANUQ  ออกแบบและผลิตเกมของตัวเอง คือ เกม Bounty Brawl ในรูปแบบเกมคอมพิวเตอร์ เปิดตัวอย่างครั้งแรกที่งาน Tokyo Game Show 2018 ในประเทศญี่ปุ่น และได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขาเกมหมวด Action จากโครงการ depa Game Accelerator Program Batch #1 จัดขึ้นโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมกับ สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย และบริษัท อินโฟเฟด จำกัด ในปี 2564 พร้อมได้ต่อยอดผลงานกับ Nintendo ซึ่งเกม Bounty Brawl คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายและรับรู้รายได้ในช่วงสิ้นปี 2565 นี้

นอกจากนี้ NANUQ จะมุ่งประกอบธุรกิจด้าน Metaverse โดยให้บริการออกแบบสร้างสรรค์งาน Metaverse แบบครบวงจร (Metaverse Digital Content Solutions) สำหรับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงจะสร้าง Metaverse เป็นของตัวเอง โดยจะทยอยเปิดตัวเป็นเฟส คาดว่าใช้เวลาเฟสละ 9-12 เดือน

ขณะที่ IGLOO  ให้บริการออกแบบสร้างสรรค์งานดิจิทัลคอนเทนต์แบบครบวงจร การผลิตผลงานต้นฉบับ เชี่ยวชาญแอนิเมชัน  และเทคนิคพิเศษทางภาพ (Visual Effect) เพื่อสร้างผลงานภาพยนตร์ ซีรีส์ มิวสิกวิดีโอ และโฆษณา ให้แก่บริษัทชั้นนำในประเทศไทยและในระดับนานาชาติ

ตัวอย่างผลงานเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง เช่น ผลงานต้นฉบับ (Original สำหรับ Netflix Japan ภาพยนตร์แอนิเมชัน  เรื่อง ๙ ศาสตรา  , ซีรี่ย์เรื่อง The Salad ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวด DigiCon6 Thailand ในปี 2561 / และ มิวสิกวิดีโอเพลง Kids See Ghosts ของศิลปินต่างประเทศ โดยประสบการณ์ ทักษะ และความชำนาญในการผลิตผลงานต่าง ๆ ข้างต้น ล้วนมีความสำคัญต่อการสร้างจักรวาลนฤมิตร (“Metaverse”)

นายพดด้วง กล่าวต่อว่า บอร์ดฯ ได้อนุมัติกรอบวงเงินในการเข้าลงทุนในธุรกิจเกมอีก มูลค่ารวมไม่เกิน 40 ล้านบาท โดยมอบอำนาจให้นายพดด้วง พิจารณาอนุมัติการเข้าดำเนินการเมื่อพบโอกาสทางธุรกิจ

ส่วนธุรกิจ Assets Tracking Solutions นั้น SAAM-S ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจระบบบริหารจัดการงานเฉพาะทาง ด้วยเทคโนโลยีผ่านโซลูชันวิเคราะห์และติดตามข้อมูลบิ๊กดาต้า โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาล ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงซอฟแวร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานกับฮาร์ดแวร์ในเอเชีย  คาดแล้วเสร็จปลายเดือนก.ค. เบื้องต้น SAAM-S ติดต่อโรงพยาบาลไปกว่า 80  แห่ง ต่างให้ความสนใจในตัวโซลูชันนี้

“เราทำ Solutions ที่เรียกว่า Assets Tracking Solutions เป็นการบริหารจัดการและติดตามสินทรัพย์ที่มีจำนวนมาก  หายง่าย และใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่า จึงมี Solutions มาช่วยติดตาม ยกตัวอย่างเช่น เครื่องมือแพทย์ สมมุติว่ามี 1,000 เครื่อง ถ้าไม่มี Solutions คอยติดตามว่าแต่ละเครื่องเก็บหรือใช้งานอยู่ตรงไหนบ้าง  พอมี Solutions เข้ามาจับ ก็จะรู้ทันที ทำให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือแพทย์ได้เร็วขึ้น ทำให้รักษาคนไข้ได้ทันเวลา และลดจำนวนการซื้อเครื่องมือแพทย์ได้เป็นจำนวนมาก อาจจะใช้จริงๆ เพียง 500-600 เครื่อง ก็เพียงพอแล้ว” นายพดด้วง กล่าว

ส่วนธุรกิจพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ปัจจุบันกำลังดำเนินงานอยู่ ตามที่มีลูกค้าว่าจ้างให้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล จำนวน 12 โครงการ กำลังการผลิตรวม 120  เมกะวัตต์ ที่จะสนับสนุนรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ของปีนี้

ด้านธุรกิจปลูกไม้พลังงาน (Plantation) และธุรกิจผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellet) เพื่อป้อนโรงไฟฟ้าที่ SAAM พัฒนาและจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้า ขณะนี้กำลังศึกษารายละเอียดประเทศที่จะเป็นพื้นที่ปลูก อาทิ กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ซึ่งเบื้องต้นมีการเจรจาไปบ้างแล้ว และหากถ้าเปิดประเทศ จะกลับเข้าไปเจรจาใหม่ คาดว่าอาจจะเริ่มเดินทางไปดูพื้นที่จริงได้ประมาณ ไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ของปีนี้

นายพดด้วง กล่าวถึงทิศทางผลประกอบการในปี 2565 คาดว่า ภาพรวมจะเติบโตมากกว่าปีก่อนอย่างน้อย 2-3 เท่าตัว เนื่องจากไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ผ่านมา SAAM ทำกำไรเติบโตได้ถึง 55.61 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิประมาณ 9 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวยังไม่รวมถึงธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเข้าไปลงทุน

“ธุรกิจใหม่ของ SAAM (ธุรกิจ Game Solutions)  จะเริ่มรับรู้รายได้ในปลายปีนี้ ยังไงปีนี้ เติบโตเท่าตัวอยู่แล้วจากธุรกิจปัจจุบัน แต่จะโต 2-3 เท่า หรือ 5-6 เท่า ก็ต้องรอดูว่าธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเข้าไปลงทุนจะเป็นอย่างไร ซึ่ง SAAM พยายามลงทุนแล้วรับรู้รายได้ให้เร็ว

กว่าจะเป็น Metaverse ที่สมบูรณ์ได้จะต้องใช้เวลา 3 ปีกว่า ก็จะนานเกินไปกว่าจะรับรู้รายได้ จึงพยายามแบ่งการเปิดตัวงานเป็นเฟส ๆ โดยเริ่มจากเกมก่อนเป็นเฟสแรก ซึ่งถือเป็นกิจกรรมแรกใน Metaverse ของ SAAM และมีเป้าหมายต่อไปที่จะเปิดตัวกิจกรรมที่ 2, 3 และ 4 เพื่อรวมกันเป็น Virtual Society (Metaverse แบบย่อ) ให้ได้ภายใน 2 ปีนับจากนี้ หลังจากนั้นก็จะเปิดตัวให้ครบ 10 กิจกรรม เพื่อกลายเป็น Metaverse ในแบบฉบับของ SAAM” นายพดด้วง กล่าว