หุ้นกลุ่มพลังงานนำดิ่ง รัฐฯขอเงินอุดหนุนฯหวั่นกระทบกำไร 20-165%

HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มพลังงงานปรับตัวลงนำตลาด นำดิ่งโดย SPRC-TOP-ESSO-IRPC หวั่นกำไรกลุ่มพลังงานรับผลกระทบจากมาตรการภาครัฐฯในการขอเงินอุดหนุนจากโรงกลั่น-โรงแยกก๊าซฯ เบื้องต้นของเงินอุดหนุนที่รัฐคาดหวังจากกลุ่มโรงกลั่นในช่วง 3 เดือนรวมราว 21,000 ล้านบาท หวั่นกระทบกำไรกลุ่มโรงกลั่น 20-165% กระทบ IRPC มากสุด อีกทั้งกังวลรัฐอาจต้องการเงินอุดหนุนยาวนานมากกว่า 3 เดือน อย่างไรก็ดี มองเป็นโอกาสซื้อสำหรับ TOP, PTTGC ที่ราคาหุ้นลดลงมากกว่าผลกระทบต่อหุ้นไปแล้ว

เมื่อเวลา 10.20 น.หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลงนำตลาดฯ นำดิ่งโดยหุ้น SPRC ร่วง 6.40% มาอยู่ที่่ 11.70 บาท ลดลง 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 334.91 ล้านบาท
หุ้น TOP ร่วง 5.63% มาอยู่ที่ 50.25 บาท ลดลง 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 743.70 ล้านบาท
หุ้น ESSO ร่วง 5.08% มาอยู่ที่ 11.20 บาท ลดลง 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 257.62 ล้านบาท
หุ้น IRPC ร่วง 4.85% มาอยู่ที่ 3.14 บาท ลดลง 0.16 บาท มูลค่าซื้อขาย 269.41 ล้านบาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน มองลบต่อข่าวมาตรการขอเงินอุดหนุนจากโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซฯ ที่อาจส่งให้ตลาดกังวลต่อผลกระทบกำไรของกลุ่มพลังงานฯ และกดดันราคาหุ้น ในช่วงที่รอข้อสรุปมาตรการ โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่น เพราะมีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากสุดในกลุ่มพลังงาน และตัวเลขเบื้องต้นของเงินอุดหนุนที่รัฐคาดหวังจากกลุ่มโรงกลั่นในช่วง 3 เดือนรวมราว 21,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอุดหนุนดีเซล 18,000 ล้านบาท หรือ 6,000 ล้านบาท 3 เดือน และอุดหนุนเบนซิน 3,000 ล้านบาท หรือ 1,000 ล้านบาท 3 เดือน จะกระทบกำไรกลุ่มโรงกลั่น 20%-165% กระทบ IRPC มากสุด อีกทั้งตลาดอาจกังวลว่ารัฐอาจต้องการเงินอุดหนุนยาวนานมากกว่า 3 เดือน

ทั้งนี้ มองสุดท้ายผลกระทบต่อกำไรอาจไม่ได้มากเท่าตัวเลขเงินอุดหนุนที่รัฐคาดหวัง เพราะมาตรการจากที่ประชุมทีมเศรษฐกิจฉุกเฉินของรัฐ ยังไม่ได้ผ่านการเจรจาร่วมกับเอกชน และมาตรการขอเงินอุดหนุนตามข่าวเป็นการขอความร่วมมือ ไม่ใช่การบังคับ ซึ่งโรงกลั่นสุดท้ายอาจไม่สามารถให้ได้ตามที่รัฐคาดหวัง เพราะคาดต้องพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนพลังงาน, ค่าใช้จ่ายพนักงาน, ขาดทุนอนุพันธ์ และกระแสเงินสดที่ต้องสำรองเพื่อรับความผันผวนของตลาดพลังงานในอนาคต รวมถึงผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น

อย่างไรก็ดี มองหลังข้อสรุปมาตรการชัดเจน เป็นโอกาสซื้อสำหรับ TOP และ PTTGC ที่ราคาหุ้นลดลงมากกว่าผลกระทบต่อหุ้นไปแล้ว โดยจากการประเมินผลกระทบจากมาตรการตามข่าว พบว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงวันที่ 10-16 มิ.ย.65 ของ TOP ราว 5.75 บาท/หุ้น และ PTTGC ราว 3.0 บาท/หุ้น ปรับลงไปมากกว่าผลกระทบเงินอุดหนุนต่อหุ้นมากสุดที่ -3.76 บาท/หุ้น และ -1.45 บาท/หุ้น ไปแล้ว