เซียนแนะกลยุทธ์สู้เงินเฟ้อ 4 กลุ่มปลอดภัย เน้นถือยาว

HoonSmart.com>>บล.โนมูระ พัฒนสิน ฟันธงเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สร้างความกังวลขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง แนะกลยุทธ์ทยอยรับ 1,570-1,550 จุด เน้น 4 กลุ่มหุ้นปลอดภัย ลงทุนยาว

 

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยแรง 0.75% ในรอบ 28 ปี เพื่อสกัดเงินเฟ้อ 8.6% และกดลง และการประชุมครั้งหน้า คาดขึ้นดอกเบี้ยระดับเดียวกัน สิ้นปีดอกเบี้ยสหรัฐ น่าจะขึ้นไปถึง 3.40%

หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐ ตอบรับข่าวดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นกว่า 300 จุด สร้างอารมณ์การลงทุนทั่วโลกดีขึ้นรวมทั้งหุ้นไทย ช่วงเช้าปรับตัวขึ้นเกือบ 14 จุด และช่วงบ่าย มีแรงขายต่างชาติออกมา ฉุด SET ไหลลงไปปิดเกือบต่ำสุดของวัน

ดัชนีปิดที่ 1,561.10 จุด ลดลง 32.44 จุด มูลค่าซื้อขาย 97,738 ล้านบาท ต่างชาติขายหนัก 5,797 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระพัฒนสิน แนะนำว่า ระยะสั้น ให้ลงทุนหุ้นไทย 50% วันนี้ตลาดแค่รีบาวด์ หลังผ่านการปรับฐาน รับความกังวลการปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) 0.75% ผลประชุมที่ออกมาไม่สร้างแรงกดันเพิ่มเติม คาดเงินเฟ้อ พีคช่วงกลางไตรมาส 3  คาดตลาดถูกปกคลุมด้วยแรงกดดันการเร่งถอนสภาพคล่องเร็วขึ้น

“ตลาดยังอยู่ในช่วงค้นหาฐานไปอีก 2-3 เดือน น้ำหนักลงทุนที่ลดลงไปให้รอพิจารณากลับมาเพิ่มใหม่ให้ทยอยบริเวณ 1,610-1,590 จุด และ 1,570-1,550 จุด หรือเมื่อมีปัจจัยบวกระลอกใหม่ “

บล.โนมูระ แนะนำ 4 กลุ่มที่เคลื่อนไหวดีกว่าตลาด ได้แก่ กลุ่ม High Growth, กลุ่มได้ประโยชน์เงินบาทอ่อน , กลุ่ม Defensive และกลุ่ม Reopening ที่ขึ้นน้อยกว่าตลาด และมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็ว

พร้อมแนะนำ หุ้นเติบโตสูง เช่น JMT, JMART, KCE, CHAYO, TIDLOR, INSET, BE8, BBIK ซึ่งผ่านการปรับฐานรับความกังวลบอนด์ยีลด์ปรับขึ้น

หุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อนทางตรง เช่น GFPT, CPF, TU, SAPPE, ASIAN, MEGA, KCE และกลุ่ม Defensive ที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมและมีอานิสงส์ ฟรีวีซ่าชาวซาอุฯ เพิ่มเติม (BDMS, BH)

กลุ่มประกัน อาทิ BLA, THREL, TIPH ที่ได้จิตวิทยาบวกบอนด์ยีลด์อยู่ในโซนสูง แต่ระยะสั้นให้เน้นตั้งรับจากบอนด์ยีลด์ชะลอปรับขึ้น

หุ้นกลุ่ม Reopening ที่ Laggard หรือมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด เช่น KTC, MAJOR, MAKRO, CPALL, BEM, CRC )

ส่วนกลุ่มหุ้นเน้นตั้ง ลงทุนระยะยาว คือกลุ่ม China Play (TOP, BCP, KCE, CPF, IVL, PTTGC, HANA) แม้ลุ้นได้รับประโยชน์จากการกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจของจีน จากการ กลับมา ล็อกดาวน์บางส่วนของเซี่ยงไฮ้

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงแรง  สะท้อนกำไรไตรมาส 2/65 คาดออกมาไม่ดี จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ที่สูง หุ้นก็ควรจะเทรด P/E ที่ต่ำลง ในเชิงพื้นฐานหุ้นควรจะปรับตัวลงได้แล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ปรับตัวลง เพราะต่างชาติยังซื้อหุ้น  แต่ครั้งนี้ บอนด์ยีลด์มีโอกาสสูงขึ้นได้อีก ทำให้มีการโยกเงินลงทุนไปที่ตลาดพันธบัตรแทน ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

“หุ้นไทยควรจะปรับพอร์ตอยู่แล้ว จากแนวโน้มบอนยีลด์ที่อาจจะสูงกว่านี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจขึ้นไปถึง 4% ในปีนี้ ซึ่งครั้งนี้ขึ้นไป 0.75% ครั้งหน้าก็จะปรับขึ้น 0.75% เมื่อบอนด์ยีลด์ขึ้น หุ้นก็ควรจะลง”

สำหรับแนวโน้มตลาดวันที่ 17 มิ.ย.2565  ตลาดยังเป็นขาลง สลับการรีบาวด์ โดยไม่ควรหลุดแนวรับเส้น 200 วัน ที่ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด ถ้าดัชนีฯไม่รีบาวด์ ก็มีโอกาสลงไปลึก พร้อมแนะนำให้ติดตามการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน, การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ คาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) วันที่ 17 มิ.ย.นี้ คาดคงอัตราดอกเบี้ย