กนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.5% ตามคาด เศรษฐกิจปีนี้โต 4.4% ธปท.เพิ่มเป้าการบริโภคภาคเอกชนเป็น 4.2% ส่วนภาครัฐถูกปรับลง บล.บัวหลวงแนะให้เลือกซื้อท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร เพราะราคายังขึ้นไม่มาก ส่วนบล.กสิกรไทยชวนเก็บหุ้นที่ต่างชาติรอซื้อคืน รวมถึงหุ้นที่ Block Trade รอกลับมาเล่นรอบใหม่ หนุนดัชนีเกิน 1,750 จุด
คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน(กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ตามคาด เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา โดยยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้เติบโตเท่าเดิม 4.4% เมื่อเปรียบเทียบกับการประมาณการเมื่อเดือนมิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ส่วนที่น่าสนใจคือการปรับเพิ่มการบริโภคภาคเอกชนขึ้นจาก 3.7%เป็น 4.2% ส่วนภาครัฐถูกปรับลดทั้งการบริโภคและการลงทุน
นักวิเคราะห์ของบล.บัวหลวงแนะนำว่า หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นจากการเลือกตั้งมีความชัดเจน และเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้หุ้นหลายกลุ่มและหลายตัวปรับขึ้นมามากแล้ว จึงให้กลยุทธ์การเลือกกลุ่มที่ยังไม่เล่น แนะนำ ท่องเที่ยว-โรงแรม และเก็งกำไรในร้านอาหาร อาทิ CENTEL ,MINT (มีร้านอาหาร) AOT ทั้งนี้ CENTEL สัดส่วนกำไรจากร้านอาหารมากที่สุดในกลุ่มโรงแรม
ส่วนงานภาครัฐ แนะนำ UNIQ TKS และกลุ่มงานระบบ IT อย่าง SAMTEL, SAMART, ITEL
ขณะที่ BTS, BEM, CK, STEC ราคาขึ้นไปแล้ว รอย่อเล่นได้อีกครั้ง
ทางด้านบล.กสิกรไทยเปิดกลยุทธ์รับเงินทุนไหลเข้า แนะนำหุ้นที่ต่างชาติขายออกไปมาก โอกาสสูงที่จะกลับมาซื้อคืน ทำให้ราคามีโอกาสขยับขึ้นสูง ได้แก่ BBL, KTB, AP, QH, SIRI, SPALI, LH, ADVANC, DTAC, MEGA, ROBINS, STEC, HANA, AMATA, MTC
นอกจากนี้ บล.กสิกรไทยคาดว่า Block Tradeจะกลับมามีบทบาทอีกครั้ง และจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนดันดัชนีเกิน 1,750 จุด โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ย.วงเงิน Block Trade พุ่งขึ้นมาเกิน 3 หมื่นล้านบาท ถือว่ามากที่สุดในรอบ 3 เดือน สะท้อนนักลงทุนที่ลงทุนผ่าน Block Trade เริ่มตอบสนองต่อภาพการฟื้นตัวของตลาดและกล้าเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากขึ้น
“หุ้นยอดนิยมวงเงิน Block Trade ที่นักลงทุนจะกลับมาซื้ออีกครั้งได้แก่ ADVANC, AMATA, AOT, BANPU, BBL,BEM, IVL, PTT, PTTEP, PTTGC, SCB, SCC, TMB”บล.กสิกรไทยระบุ
การซื้อขายหุ้นวันที่ 19 ก.ย. ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น หลังผ่อนคลายสงครามการค้าเมื่อสหรัฐอเมริกาเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนน้อยกว่าคาด ระหว่างวันดัชนีตลาดหลักทรีพย์ปรับตัวขึ้นแรงถึง 18.30 จุด ก่อนเจอแรงขายทำกำไร ให้ลงมาปิดที่ 1,749.80 จุด บวก 5.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 92,394 ล้านบาท โดยสถาบันไทยซื้อมากต่อเนื่อง 6,185 ล้านบาท ต่างชาติซื้อ 1,601 ล้านบาทและรายย่อยขายจำนวน 7,111.67 ล้านบาท