ดาวโจนส์ปิดทรุดกว่า 630 จุด รอข้อมูลเงินเฟ้อ ว่างงานพุ่ง

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง ดัชนีดาวโจนส์ทรุดกว่า 630 จุด แรงเทขายช่วงท้ายตลาด กังวลภาวะเศรษฐกิจ รอเงินเฟ้อคืนนี้ ด้าน ECB รายงานยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสูงกว่านักวิเคราะห์คาด ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยคุมเงินเฟ้อ บอนด์ยีลด์พุ่งต่อแตะระดับ 3.073% ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 60 เซนต์ ตลาดหุ้นยุโรปร่วง หลัง ECB เตรียมขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค.และคาดว่าจะขึ้นอีกครั้งในเดือนก.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ปิดที่ 32,272.79 จุด ร่วงลง 638.11 จุด หรือ 1.94% จากแรงเทขายในช่วงท้ายตลาด ขณะที่นักลงทุนรอการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤษภาคมของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,017.82 จุด ลดลง 97.95 จุด, -2.38%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,754.23 จุด ดิ่งลง 332.04 จุด, -2.75%

นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมที่จะเผยแพร่ในวันนี้ เพื่อประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)จะขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุกมากแค่ไหน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบรายปี และเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 5.9%

นอกจากนี้ข้อมูลการว่างงานและผลการประชุมของธนาคารกลางสหภาพยุโรป (European Central Bank:ECB) ก็มีผลกดดันตลาดให้ลดลง โดยกระทรวงแรงงานรายงานการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 27,000 ราย สู่ระดับ 229,000 ราย สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม และสูงกว่า 210,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด

คริสโตเฟอร์ เอส. รัพคีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ FWDBONDS กล่าวว่า การว่างงานที่ยังเพิ่มขึ้นกับเงินเฟ้อที่มีผลต่อต้นทุนของทุกบริษัททั่วประเทศ จึงต้องมีมาตรการควบคุมต้นทุนซึ่งมีแนวโน้มว่าจะตกอยู่ที่แรงงาน

ด้าน ECB ยืนยันจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่นั้นเพื่อคุมเงินเฟ้อ และอาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีกในเดือนกันยายนหากเงินเฟ้อยังสูง พร้อมปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2022 ขึ้นเป็น 6.8% จาก 5.1% ประมาณการครั้งก่อน

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3.073%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ลดลง 6.4% หุ้นทวิตเตอร์ ลดลง 2.3% หุ้นแอปเปิล ลดลง 3.6% หุ้นแอมะซอนลดลง 4%

หุ้นกลุ่มกาสิโนลดลงมาก โดยหุ้นลาสเวกัส แซนด์ส ลดลง 5.6% หุ้นซีซาร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ร่วงลง 3.8%

หุ้นโบอิ้งลดลงกว่า 4%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของ เฟด ในวันที่ 14-15 มิถุนายนนี้

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงอย่างมาก นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่ลดลง 2.3% หลังการประชุมของธนาคารกลางสหภาพยุโรป(European Central Bank:ECB) ยืนยันการยุติใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน รวมทั้งแผนการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมนี้ และปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจลงและปรับขึ้นคาดการณ์เงินเฟ้อ

ECB ประกาศแผนจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกรกฎาคม และคาดว่าจะขึ้นอีกครั้งในเดือนกันยายน แต่จะขึ้นแค่ไหนขึ้นอยู่กับแนวโน้มเงินเฟ้อระยะปานกลาง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 434.38 จุด ลดลง 5.99 จุด, -1.36%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,476.21 จุด ลดลง 116.79 จุด, -1.54%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,358.46 จุด ลดลง 90.17 จุด, -1.40%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,198.80 จุด ลดลง 247.19 จุด, -1.71%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 60 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 121.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 51 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 123.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล