HoonSmart.com>> FTI กางแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง ลุยขยายสาขาผ่านร้าน Aquatek-Water Store เต็มพิกัดเน้นสินค้าพรีเมี่ยม หนุนรายได้ปีนี้โต 25-30% “วิกร ภูวพัชร์” ซีอีโอ มั่นใจวิกฤตโควิดคลี่คลาย รายได้กลับไปเติบโตเท่าปี 2563
นายวิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล ( FTI ) ผู้นำระบบน้ำ เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง มีโอกาสขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศ หลังโควิดคลี่คลาย การใช้จ่ายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ กลุ่มร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมและท่องเที่ยว เห็นการเติบโตโดดเด่น
บริษัท ฯ มุ่งขยายฐานลูกค้ากลุ่มครัวเรือนมากขึ้น ตามแผนการขยายตัวแทนจำหน่ายร้าน Aquatex เป็นสินค้า Premium ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและมีมาร์จิ้นสูง จากเดิมบริษัทฯ จำหน่ายสินค้าแบบค้าส่งไปยังร้านค้าทั่วไป ( B2B) รวมถึงมีแผนขยายตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มปั๊มน้ำและวาล์ว ทำให้มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้ของบริษัทฯ จะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 25-30 % โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 29.5% และอัตรากำไรสุทธิ 7.71% ฟื้นตัวขึ้นจากปีที่ผ่านมา และใกล้เคียงกับปี 2563 ที่มีอัตรากำไรสุทธิ 8%
สำหรับความคืบหน้าขยายตัวแทนจำหน่ายผ่านร้าน Aquatek และ Water Store ตามแผนที่วางไว้ ล่าสุดเปิดร้าน Aquatek สาขา 2 คลองหลวง ปทุมธานี ช่วง 3 ปี (2565-2567) ตั้งเป้า ขยายร้าน Aquatek จำนวน 50 สาขา ,ขยายร้าน Water Store จำนวน 5 สาขา จากปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายที่เป็นร้าน Water Store จำนวน 19 สาขา ตั้งอยู่ประเทศไทย 16 สาขา และในต่างประเทศ 3 สาขาในประเทศ ลาว พม่า และกัมพูชา ขณะที่ร้าน Aquatek ปัจจุบันมี 2 สาขา
สำหรับภาวะอุตสาหกรรมของตลาดเครื่องกรองน้ำประเมินว่าตลาดระบบบำบัดน้ำและเครื่องกรองน้ำยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตตามกำลังซื้อและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ตามการทยอยคลายล็อกดาวน์ประเทศ ขณะที่ภาคครัวเรือนที่ยังไม่มีเครื่องกรองน้ำและไม่มีปั๊มน้ำยังมีสัดส่วนที่ต่ำ เติบโตตามกระแสใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลบวกต่อธุรกิจที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต
“บริษัทถือเป็นผู้นำตลาดกลุ่มธุรกิจขายส่ง B2B โดยตลาดนี้มีคู่แข่งน้อยรายและไม่มีคู่แข่งโดยตรงที่มีขนาดใกล้เคียงหรือทำแบบครบวงจรเหมือนบริษัทฯ อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรองรับความต้องการของผู้บริโภคทุกกล่ม ครอบคลุมทั่วประเทศ และแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจน ซึ่งจะเห็นภาพที่ชัดเจนได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้ จึงทำให้เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ต่อจากนี้จะยังคงสดใสต่อเนื่องจากไตรมาสแรก จึงเชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ จะยังคงทำผลงานให้ขยายตัวและเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้เช่นกัน” ดร.วิกรกล่าวในที่สุด
อนึ่งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 13.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.21 ล้านบาท หรือ 44. 27% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 9.52 ล้านบาท