HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่ง ดัชนีดาวโจนส์ทะยานกว่า 500 จุด ขานรับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีก ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.76 ดอลลาร์ ปิด 114.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่บวก นำโดยกลุ่มค้าปลีกบวกกว่า 4.8% หลังรายงานข่าวอังกฤษประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 26 พฤษภาคม 2565 ปิดที่ 32,637.19 จุด เพิ่มขึ้น 516.91 จุด หรือ 1.6% จากแรงซื้อที่ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ตลาดใกล้พ้นจากที่ลดลงต่อเนื่อง 7 สัปดาห์
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,057.84 จุด เพิ่มขึ้น 79.11 จุด, +1.99%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,740.65 จุด พุ่งขึ้น 305.91 จุด, +2.68%
ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกช่วยหนุนการปรับขึ้นของตลาด โดยหุ้นเมซีส์ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่เพิ่มขึ้นถึง 18% ระหว่างการซื้อขาย หลังจากปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไร หุ้นดอลลาร์ ทรีและหุ้นดอลลาร์ เจนเนอรัลต่างบวกกว่า 21% หลังทั้งสองบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรเช่นกัน
หุ้น Nvidia ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่เพิ่มขึ้น 5.16% หลังรายกำไรและรายได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
ควินซี ครอสบี จากLPL Financial กล่าวว่า การปรับขึ้นของตลาดเป็นสิ่งที่คาดไว้แล้ว จากที่ถูกขายมากเกินไป(oversold) ขณะที่รายงานข่าว Broadcom จะซื้อกิจการ VMWare ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งในมูลค่าราว 16 พันล้านดอลลาร์ก็ช่วยด้านจิตวิทยานักลงทุนว่า การซื้อกิจการเริ่มกลับมา เพราะเกิดขึ้นในขณะที่ราคากลุ่มเทคโนโลยีอ่อนตัวและธนาคารกลาง(เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย
นอกจากนี้สะท้อนว่าในสัปดาห์ก่อนมีการมองผู้บริโภค กับรายงานข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอยหดหู่เกินจริง
ด้านชาร์ลีย์ ริปเลย์ จากAllianz Investment Management กล่าวว่า การปรับขึ้นของตลาดวันนี้ส่งสัญญานให้นักลงทุนว่า แม้หลายบริษัทประสบภาวะเงินเฟ้อแต่ผู้บริโภคยังมีความสามารถในการใช้จ่าย
ซัคคารี ฮิลล์ จาก Horizon Investments ชี้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยทางเทคนิค เพราะภาวะโดยรวมยังไม่เปลี่ยนแปลง และคาดว่าจะเป็นเพียงระยะสั้น
นักลงทุนยังประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อวานนี้รวมทั้ง GDP ไตรมาสแรกที่ปรับใหม่หดตัว 1.5% จากระยะเดียวกันของปีก่อนจากเบื้องต้น 1.4% และมากกว่า1.3% ที่นักวิเคราะห์คาด
กระทรวงแรงงานรายงานการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 8,000 ราย มาที่ระดับ 210,000 รายและต่ำกว่า 215,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาด
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) รายงาน ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales)เดือนเมษายน ลดลง 3.9% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 99.3 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 และปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 เมื่อเทียบรายปี ลดลง 9.1%
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 4.8% จากรายงานข่าวว่าอังกฤษประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งมีทั้งมาตรการแจกเงินบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพให้กับครัวเรือนรายได้ต่ำและกลุ่มคนเกษียณ และมาตรการเก็บภาษีกลุ่มน้ำมันและก๊าซ
ในกลุ่มค้าปลีก หุ้นโอคาโดบวก 12%
ในกลุ่มน้ำมันและก๊าซหุ้นCentrica ลดลง 7
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 437.71 จุด เพิ่มขึ้น 3.40 จุด, +0.78%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,564.92 จุด เพิ่มขึ้น 42.17 จุด, +0.56%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,410.58 จุด เพิ่มขึ้น 111.94 จุด, +1.78%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,231.29 จุด เพิ่มขึ้น 223.36 จุด, +1.59%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 3.76 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 114.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 3.37 ดอลลาร์ หรือ 3.0% ปิดที่ 117.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล