HoonSmart.com>>หุ้น UBE บวก 1.96% เล็งกำไรปกติในครึ่งปีหลังโต รับแรงหนุนจากยอดส่งออกแป้งที่เติบโต โดยเฉพาะตลาดยุโรป ซึ่งมี GPM สูงเป็นหลัก ขณะที่ผลงานไตรมาส 2/65 อย่างน้อยทรงตัว แม้จะมีการปิดซ่อมโรงงาน ได้แรงหนุนจากธุรกิจเอทานอลทรงตัวสูง-ธุรกิจแป้งฟื้นตัว
เมื่อเวลา 10.53 น.่หุ้น UBE บวก 1.96% มาอยู่ที่ 2.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 26.78 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.04 บาท ขึ้นสูงสุด 2.10 บาท และต่ำสุด 2.04 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะ”ซื้อ”หุ้นบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE) แม้มีการปิดซ่อมโรงงาน แต่กำไรปกติไตรมาส 2/65 มีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง QoQ จากรายได้ของธุรกิจเอทานอลที่ทรงตัวอยูในระดับสูงและธุรกิจแป้งที่ฟื้นตัว QoQ หลังจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
พร้อมคาดกำไรปกติในช่วงครึ่งหลังปี 65 สามารถเติบโตได้ HoH โดยได้แรงหนุนหลักจากการขยายตัวของธุรกิจแป้ง ซึ่งมี GPM สูงเป็นหลักโดยเฉพาะสินค้าประเภทแป้งฟลาวที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้นหลังผ่านช่วงทดสอบคุณภาพ
โดยคงประมาณการปี 2565 แต่ปรับประมาณการปี 2566 ลงเป็น 516 ล้านบาท เพื่อสะท้อนแนวโน้มของธุรกิจเอทานอลที่อาจได้รับแรงกดดันจากราคาวัตถุดิบที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง (GPM ลดลง)
เนื่องจาก UBE มีการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯในการส่งออกแป้งออร์แกนิกสูงจึงอาจได้รับผลกระทบจากการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ จึงปรับ Valuation ลงเป็น PBV 1.6x เพื่อสะท้อนปัจจัยดังกล่าว ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 2.50 บาท/หุ้น Upside +22.5%
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะ”เก็งกำไร”หุ้น UBE เป้าพื้นฐาน 2.9 บาท ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 ทรงตัว QoQ ที่ระดับ +100 ล้านบาท แม้จะมีการ Shutdown โรงงาน 14 วัน จากอัตรากำไรของเอทานอลที่ดีขึ้น และยอดขายแป้งทั้ง Starch / Flour เติบโต และคาดโมเมนตัมกำไรในครึ่งหลังปี 65 โต HoH จากยอดส่งออกแป้งที่เติบโต โดยเฉพาะตลาดยุโรป ทั้งนี้ Forward PE ปีนี้ต่ำเพียง 16 เท่า และหากพิจารณา PEG ต่ำเพียง 0.6 เท่า (คาด EPS โต +41% ต่อปี 2564 – 66 CAGR)
พร้อมประเมินแนวรับ 2.0 บาท แนวต้าน 2.1 บาท กรณี Breakout แนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 2.2 บาท (Stop loss 1.98 บาท)
บล.กรุงศรีแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 3 บาท คงเป้าหมายรายได้เติบโต 100% ในสามปี โดยใช้งบลงทุน 2,000 ล้านบาทในปี 2565-2566 และคาดว่าจะมีดีล M&A หนึ่งดีลในตรมาสที่ 3 และบริษัทขยายไลน์การผลิตแป้งในครึ่งแรกปีนี้ 400 ล้านบาท ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต 70 ล้านบาท และลดปัญหาคอขวดของโรงงานเอทานอลในครึ่งปีหลัง 80 ล้านบาท จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในระยะสั้น