“ณรงค์ อิงค์ธเนศ” มั่นใจปีนี้ VCOM รายได้แตะ 1,600 ล้านบาท ปีหน้าโตอีก 15% รายได้ด้านบริการเพิ่มเป็น 40% จาก 35% หลังทุ่มงบ 196.5 ล้านบาท ซื้อ I-SECURE ผู้ให้บริการเฝ้าระวังระบบรักษาความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย (MSSP) หวังให้บริการครบวงจร ขยายฐานลูกค้าองค์กร
นายณรงค์ อิงค์ธเนศ ประธานกรรมการ บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ VCOM ผู้ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการใช้งานในระดับองค์กร เปิดเผยว่า หลังจากการเข้าซื้อทั้งหมดของบริษัท ไอ-ซีเคียว (I-SECURE) จะทำให้ สัดส่วนรายได้จากค่าบริการจะเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากเดิม 35% ของรายได้ทั้งหมด และคาดว่ารายได้รวมของปีนี้จะแตะที่ระดับ 1,600 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นประมาณ 10-15% จากปี 2560
“ต่อไปนี้ภาพธุรกิจของ VCOM จะเปลี่ยนไป เราจะไม่ได้ขายของอย่างเดียว แต่เราจะเป็น Solution Service Provider แบบครบวงจร ทำให้รายได้จะมีความมั่นคงมากขึ้น ไม่ขึ้นลงตามยอดขาย เพราะเมื่อเราบริการที่ดีลูกค้าจะใช้บริการต่อเนื่อง นี้ VCOM รับรู้รายได้จาก I-SECURE เฉพาะไตรมาส 4 แต่ปีหน้าจะรับรู้เต็มปี ซึ่งในแต่ละปี I-SECURE มีรายได้ร้อยกว่าล้านบาท และยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีก” นายณรงค์ กล่าว
นอกจากนี้ ในปี 2561 บริษัทยังมีรายได้จากโครงการภาครัฐ 300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 3-4 นี้ โดยในปี 2562 คาดว่า รายได้จะเติบโตประมาณ 15% จากปีนี้
“นอกจากธุรกิจในไทยแล้ว เราขยายธุรกิจไปเมียนมาและกัมพูชา ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยปัจจุบันกลุ่มธนาคารเป็นลูกค้าของเราจำนวนมาก รวมทั้งภาครัฐ และอุตสาหกรรมการผลิต รวมทั้งบริษัทต่างชาติที่เข้าไปทำธุรกิจในสองประเทศนี้” นายณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการของบริษัท VCOM มีมติอนุมัติการซื้อหุ้นบริษัท I-SECURE ทั้ง100% ของทุนชำระแล้ว มูลค่ารวมประมาณ 196.5 ล้านบาท เพื่อต่อยอดและขยายขอบเขตการให้บริการไปสู่การดำเนินการเฝ้าระวังระบบรักษาความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย อันจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทโดยเฉพาะรายได้ค่าบริการ และลดการพึ่งพิงรายได้หลักในปัจจุบันที่มาจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Oracle
พร้อมทั้งยังเพิ่มฐานลูกค้าที่เป็นบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่ได้จำนวนมาก ขณะเดียวกันผลการดำเนินงานของ I-SECURE สามารถสร้างรายได้ และผลการดำเนินงานที่ดีให้แก่บริษัทในระยะยาว รวมทั้งสร้างโอกาสการได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนอีกด้วย
ทั้งนี้ I-SECURE เป็นผู้นำด้านการดำเนินธุรกิจการเฝ้าระวังระบบรักษาความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย หรือบริการ MSSP (Managed Security Service Provider) ระดับชั้นนำของประเทศ ให้บริการศูนย์เฝ้าระวังระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย หรือ Security Operation Center (SOC) ให้บริการและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ฝึกอบรมระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และความปลอดภัยของข้อมูลแบบครบวงจร
“นอกจากจะเพิ่มช่องทางการให้บริการมีความหลากหลายมากขึ้นแล้ว ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น เช่น Big Data การนำข้อมูลต่างๆ เก็บไว้บนระบบคลาวด์ (Cloud) ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูล หรือระบบรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยบนระบบเครือข่าย (Network Security) ที่ดีในการป้องกันการถูกเจาะระบบเข้ามาทำลายข้อมูลขององค์กรต่าง ๆ ด้วย” นายณรงค์ กล่าว
บริษัท VCOM จะเริ่มให้บริการเฝ้าระวังระบบรักษาความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย หรือบริการ MSSP กับกลุ่มลูกค้าของ VCOM เอง และยังใช้ฐานลูกค้าของ I-SECURE ในการต่อยอดธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับบริษัทในอนาคต
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า “สำหรับเม็ดเงินที่นำมาใช้ซื้อหุ้นสามัญของ I-SECURE ในครั้งนี้มาจากกระแสเงินสดของบริษัท 156.5 และจากหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทอีก 40 ล้านบาท โดยจะขออนุมัติการเพิ่มทุนต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งได้กำหนดจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ในวันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อกิจการ โดยจะจ่ายเงินเดือน ต.ค. ปีนี้ 115 ล้านบาท หลังจากนั้นทยอยจ่ายปี 2563 และ 2564 ซึ่งกระแสเงินสดของบริษัทมีมากพอ”
ด้านนายวีระยุทธ์ เพริดพราว กรรมการผู้จัดการ I-SECURE กล่าวเพิ่มเติมว่า I-SECURE เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ โดยเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2549 เพื่อประกอบธุรกิจบริการ MSSP (Managed Security Service Provider) เป็นรายแรกในเมืองไทย และให้บริการเป็น Outsource เกี่ยวกับการให้คำปรึกษาและบริหารจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ให้กับองค์กรต่างๆ
บริษัท I-SECURE ได้มีการพัฒนาระบบเพื่อเฝ้าระวัง และจัดการกับปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ ตลอดจนให้บริการศูนย์เฝ้าระวังด้านความมั่นคงปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย หรือ Security Operation Center (SOC) รวมไปถึงบริการให้คำปรึกษาและออกแบบระบบให้แก่องค์กรต่าง ๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีมาตรฐาน โดยบริษัทผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ISO/IEC 27001: 2013 และ ISO/IEC 20000:2011
ในปัจจุบัน I-SECURE มีลูกค้าประมาณ 150 ราย เช่น หน่วยงานภาครัฐที่ให้บริการประชาชน องค์กรเอกชนชั้นนำ ที่ประกอบธุรกิจการให้บริการทางการเงินต่างๆ เช่น ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บริษัทประกันภัย บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการผลิตต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจค้าปลีกชั้นนำของประเทศ โดยมีอายุสัญญาตั้งแต่ 1-5 ปี เป็นต้น สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2560 ของบริษัทมีรายได้ จำนวน 125.63 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 9.24 ล้านบาท
“ธุรกิจ Cyber Security มีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก เพราะในปัจจุบันไม่ใช่แค่ควรจะทำ แต่ทุกบริษัทจะต้องทำ Cyber Security เพราะข้อมูลเป็นดิจิทัลหมดแล้ว ขณะที่การโจมตีทาง Cyber มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นลูกค้าเราไม่ถึง 5% นอกจากนี้ยังมีแผนจะขยายออกไปเมียนมาและกัมพูชา ตามฐานลูกค้าของ VCOM อีกด้วย” นายวีระยุทธ์