HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยคาดหุ้นสัปดาห์หน้ายังคงผันผวนต่อ จาก 4 ปัจจัย รอตัวเลขส่งออกเดือนเม.ย. สถานการณ์โควิด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ตึงเครียดยูเครน ด้านธนาคารกสิกรไทยคาดค่าเงินเคลื่อนไหว 33.80-34.70 บาท/ดอลลาร์ จากสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสำหรับสัปดาห์ถัดไป (23-27 พ.ค.65)ว่า ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,580 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,635 และ 1,650 จุด ตามลำดับ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนเม.ย.ของไทย สถานการณ์โควิด-19 ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนพ.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนเม.ย. บันทึกการประชุมเฟด และจีดีพีไตรมาส 1/65 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนพ.ค. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ของจีน
ในวันศุกร์ (20 พ.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,622.95 จุด เพิ่มขึ้น 2.43% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 71,995.00 ล้านบาท ลดลง 11.04% ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 3.94% ปิดที่ 625.66 จุด
หุ้นพลิกกลับมายืนเหนือแนว 1,600 จุด โดยดีดตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ ตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันและต่างชาติ ขานรับตัวเลขจีดีพีไทยไตรมาส 1/65 ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงข่าวที่จีนเตรียมผ่อนคลายล็อกดาวน์ อย่างไรก็ดี หุ้นย่อตัวลงสั้นๆตามตลาดหุ้นต่างประเทศตามความกังวลเรื่องดอกเบี้ยของเฟด ก่อนจะปรับตัวขึ้นอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดในประเทศเพิ่มเติม
การฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ นำโดย หุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงกลุ่มไฟแนนซ์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
สำหรับค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (23-27 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 33.80-34.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ในวันศุกร์ (20 พ.ค.) เงินบาทปิดตลาดที่ 34.27 (หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 34.25) เทียบกับระดับ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (13 พ.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 17-20 พ.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทย 12,600 ล้านบาท และ 9,362.4 ล้านบาท ตามลำดับ
เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังแข็งค่าผ่านแนวสำคัญหลายแนว ประกอบกับมีปัจจัยบวกช่วงต้นสัปดาห์จากข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/65 ของไทยที่ออกมาดีกว่าที่คาด ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ทยอยอ่อนค่าลงตามการย่อตัวของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และยอดขายบ้านมือสองที่ลดลง 3 เดือนติดต่อกัน นอกจากนี้การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นๆ ระหว่างสัปดาห์ หลังจากที่ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวกลับลงมา อย่างไรก็ดีเงินดอลลาร์ฯ กลับมาเผชิญแรงขายอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนเปลี่ยนจุดสนใจไปที่การประเมินความเป็นไปได้ของการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากเฟดมากขึ้น