HoonSmart.com>>”เจดีฟู้ด” ผู้ผลิตผงปรุงรสและอาหารอบแห้งที่ได้มาตรฐานระดับสากล เปิดผลงานไตรมาสแรกปีนี้ กำไรสุทธิ 1 ล้านบาท รายได้ 138.78 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 การันตีโตโดดเด่น หนุนทั้งปีนี้ขยับ 25% จากปีก่อน 585.7 ล้านบาท รับอานิสงส์โควิด-19 คลี่คลาย ความต้องการอาหารทั้งในห้างสรรพสินค้าและสตรีทฟู้ดกลับมาปกติ ผลิตภัณฑ์ใหม่มีออเดอร์ เดินหน้าขยายตลาดไปเวียดนาม
บริษัท เจดีฟู้ด(JDF) เปิดเผยผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 1/2565 มีกำไรสุทธิเพียง 1 ล้านบาท ลดลงเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท
นางสาวรัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดีฟู้ด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 138.78 ล้านบาท หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ส่งผลให้การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศล่าช้าลง
แนวโน้มในครึ่งปีหลังหรือไตรมาส 3 มีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดีและยังคงเป้าหมายเติบโต 25% จากปี 2564 ที่มีรายได้อยู่ที่ 585.7 ล้านบาท หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ซึ่งส่งผลให้ความต้องการอาหารทั้งในห้างสรรพสินค้าและสตรีทฟู้ด เริ่มกลับมาเป็นปกติและยังมีสินค้าใหม่ โปรตีนอบกรอบและเครื่องจักรเข้ามาติดตั้งครบแล้วน่าจะสร้างยอดขายในไตรมาส 4 ให้ดีขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีสินค้าที่หลากหลาย มีการให้บริการที่ครบวงจร (one stop service) สามารถดูแลและให้คำปรึกษาลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในหลายอุตสาหกรรมในการวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารตามความต้องการของลูกค้า ประกอบกับมีโรงงานและสินค้ามีคุณภาพรับรองจากมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ JDF ยังมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหารมากกว่า 30 ปี ปัจจุบันมีทีมวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารกว่า 22 คน พัฒนาสูตรเครื่องปรุงรสมาแล้วกว่า 2,000 รายการ ให้แก่ลูกค้ากว่า 300 ราย
“นักลงทุนและผู้ถือหุ้นไม่ต้องกังวล แม้ผลงาน 3 เดือนแรกออกมาไม่ดี แนวโน้มไตรมาส 2 ยอดขายและกำไรจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนมากขึ้นและเรายังได้รับออเดอร์ สินค้าแป้งชุบทอด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งพัฒนาร่วมกับลูกค้าเมื่อต้นปีนี้ รวมทั้งยังมีแผนออก Protein Snack แบรนด์ใหม่ในไตรมาส 3 บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายตลาดไปที่เวียดนาม ตามแผนงานที่ได้วางไว้ก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะได้เห็นการส่งออกผลิตภัณฑ์ ประมาณปลายปีนี้หรือต้นปี 2566” นางสาวรัตนา กล่าว