JTS ดิ่งวันเดียวสูญ 6.6 หมื่นลบ. CHOW เท 150 ลบ.ลุยเหมืองขุดคริปโต

HoonSmart.com>>”จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น”ถูกกระหน่ำ ทรุดหนัก 23% มูลค่าหลักทรัพย์หายวับ 66,407 ล้านบาท เหลือ 2.2 แสนล้านบาท หลังปลด SP เปิดซื้อขาย ต่อเวลาดับร้อนระดับ 3 ถึง 2 มิ.ย.นี้ ธุรกิจเหมืองขุดคริปโตยังเป็นที่สนใจของบจ. ล่าสุด”บอร์ดเชาว์ สตีล อินดัสทรี้”อนุมัติงบ 150 ล้านบาท ซื้อเครื่องขุดคริปโตไตรมาสที่ 2 หวังโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ด้านราคาเหรียญบิทคอยน์ไหลลงไปต่อ ซื้อขายต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์

วันที่ 18 พ.ค.2565  ตลาดหุ้นไทยบวก 5.84 จุด ดัชนีปิดที่ระดับ 1,620.33 จุด แต่หุ้นบริษัท บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS) กลับดิ่งลงลึกสุดที่ 296 บาท ก่อนฟื้นมาปิดที่ 308 บาท รูดแรง -94 บาทหรือ -23.38% มูลค่าซื้อขาย 207.69 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป) หายไปภายในวันเดียวสูงถึง 66,407 ล้านบาท คงเหลือจำนวน 217,588 ล้านบาท

หุ้น JTS เริ่มกลับมาซื้อขายวันที่ 18 พ.ค. หลังจากถูกขึ้น SP หยุดพักการซื้อขาย 1 วัน จากการขยายเวลาติดมาตรการระดับ 3 ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และใช้ Cash Balance ต่อไป โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.ถึง 2 มิ.ย.2565

แนวโน้มราคาหุ้น JTS ยังมีโอกาสปรับตัวลงต่อ ท่ามกลางวิกฤตการณ์ตลาดคริปโต ราคาเหรียญบิทคอยน์ ยืนเหนือ 30,000 ดอลลาร์ไม่สำเร็จ ณ เวลาประมาณ 19.00 น. ราคาซื้อขายที่ 29,800.80 ดอลลาร์ ลดลง−611.30 ดอลลาร์ หรือ -2.01%

ด้านบริษัทเชาว์ สตีล อินดัสทรี้ (CHOW) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน โดย อนุมัติให้นายนายอนาวิล จิรธรรมศิริ กลับเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และแต่งตั้ง นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ให้รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน และผู้รับผิดชอบสูงสุดในสายงานการเงินและบัญชี(CFO)

นอกจากนั้น ยังได้อนุมัติให้ลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดคริปโตเคอร์เรนซี่ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่ทางบริษัทฯ ได้ศึกษาข้อมูลมาอย่างถี่ถ้วน และเล็งเห็นว่าเป็นธุรกิจการลงทุนที่มีศักยภาพและให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต โดยกำหนดมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 150 ล้านบาท เพื่อใช้ในการจัดซื้อเครื่องขุดคริปโตเคอร์เรนซี่ ซึ่งจะเริ่มทยอยลงทุนภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่นี้อย่างต่อเนื่อง

นายอนาวิล กล่าวว่า CHOW มองว่าธุรกิจเหมืองขุดคริปโตเคอร์เรนซี่ เป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะเข้ามาเพิ่มรายได้ และสนับหนุนให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาได้ศึกษาถึงความเป็นไปได้และทิศทางการเติบโตของธุรกิจอย่างถี่ถ้วน รวมทั้งมีบุคลากรที่มีศักยภาพ สามารถรองรับธุรกิจใหม่เป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นการเติบโตของธุรกิจนี้ได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาสแรกปี 2565 พลิกมีกำไรสุทธิ 1,205.35 ล้านบาทจากขาดทุน 65.17 ล้านบาทในปี 2564  หลังจากธุรกิจเหล็กเริ่มเปิดเดินสายการผลิตครั้งใหม่ และรับรู้กำไรจากการขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 56.9 เมกะวัตต์  รวมทั้งสิ้น 1,423.46 ล้านบาท บริษัทฯ ชำระคืนหนี้แบงก์ ที่ใช้ในการพัฒนาโรงไฟฟ้ากว่า 6,401.74 ล้านบาท ส่งผลให้หนี้สินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนทุน แข็งแกร่งมากขึ้น โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงอยู่ที่ระดับ 1.46 เท่า

หลังจากนี้ CHOW จะเริ่มบุกขยายธุรกิจอย่างเต็มตัว เพื่อเร่งขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ทั้งธุรกิจเหล็ก ธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากเดิมเพื่อต่อยอดทางธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการเกื้อหนุนทางธุรกิจในกลุ่มบริษัทฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนั้น ยังมุ่งใช้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างโอกาสในการเติบโตของบุคลากรไปพร้อมกับองค์กรในระยะยาว