ดาวโจนส์ปิดบวก 466 จุด ประธานเฟดชี้ขึ้นดอกเบี้ย 0.50%

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 466 จุด หลังประธานเฟดเผยจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสองนัดหน้าและไม่พิจารณาขึ้นดอกเบี้ย 0.75% มากนัก ด้านราคาน้ำมันดิบพุ่ง 4% WTI ปรับขึ้น 4.36 ดอลลาร์ ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นักลงทุนยังเกาะติดแนวโน้มเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ย สถานการณ์รัสเซียกับยูเครน ด้านผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนเดือนมี.ค.หดตัว 1.8% จากเดือนก.พ.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 ปิดที่ 32,196.66 จุด เพิ่มขึ้น 466.36 จุด หรือ 1.47% ช่วยดึงตลาดขึ้นมาจากที่ร่วงลงในต้นสัปดาห์ได้และช่วยไม่ให้ดัชนี S&P 500 ตกลงไปในแดนหมี( bear market territory)

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,023.89 จุด เพิ่มขึ้น 93.81 จุด, +2.39%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,805.00 จุด พุ่งขึ้น 434.04 จุด, +3.82%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.1% เป็น 7 สัปดาห์แรกที่ลดลงติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2001 ดัชนี S&P500 ลดลง 2.4% และ Nasdaq ลดลง 2.8%
หุ้นทุกลุ่มในดัชนี S&P 500 ปิดบวกนำโดยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่ม IT ที่บวก 4.1% และ 3.4% ตามลำดับ

ตลาดปรับขึ้นหลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในแต่ละการประชุมสองนัดหน้า และไม่พิจารณาถึงการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% มากนัก

หุ้นไนกี้เพิ่มขึ้น 4.7% หุ้นเซลส์ฟอร์ซบวก 4.1% หุ้นอเมริกันเอ็กซ์เพรสและหุ้นโบอิ้งที่ต่างเพิ่มขึ้นกว่า 3% มีส่วนหนุนดัชนีดาวโจนส์

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ถูกเทขายหนักก่อนหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มสเพิ่มขึ้น 3.9% หุ้นอัลฟาเบทเพิ่มขึ้น 2.8%

หุ้นเทสลา เพิ่มขึ้น 5.7% แต่หุ้นทวิตเตอร์ ลดลง 9.7% หลังนายอีลอน มัสก์ทวีตว่า ระงับการทำข้อตกลงซื้อหุ้นทวิตเตอร์เพื่อรอข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีปลอม

มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมลดลงมาที่ระดับ 59.1 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2011 และต่ำกว่า 64.0 ที่นักวิเคราะห์คาด

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่เพิ่มขึ้น 4.7% ขณะที่นักลงทุนยังเกาะติดแนวโน้มเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ย รวมไปถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือระหว่างรัสเซียกับยูเครน

ฝรั่งเศสรายงานเงินเฟ้อเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 5.4% จากระยะเดียวกันของปีก่อน
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนเดือนมีนาคมหดตัว 1.8% จากเดือนกุมภาพันธ์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 433.48 จุด เพิ่มขึ้น 9.08 จุด, +2.14%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,418.15 จุด เพิ่มขึ้น 184.81 จุด, +2.55%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,362.68 จุด เพิ่มขึ้น 156.42 จุด, +2.52%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,027.93 จุด เพิ่มขึ้น 288.29 จุด, +2.10%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 4.36 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 110.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมพุ่งขึ้น 4.1 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 111.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล