COM7 ทุ่มงบ 1 พันลบ.เตรียมซื้อหุ้นคืน 1.25% ด้านหุ้นหลุดโผ MSCI

HoonSmart.com>> บอร์ด “คอมเซเว่น” ไฟเขียวงบ 1,000 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์ไม่เกิน 30 ล้านหุ้น สัดส่วน 1.25% เริ่ม 30 พ.ค.-29 พ.ย.65 พร้อมโชว์ผลงานไตรมาส 1/65 กำไร 783 ล้านบาท เติบโต 38.5% กวาดรายได้เพิ่มขึ้น ด้าน MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นใหม่คำนวณดัชนี MSCI Global Standard Index มีผลสิ้นเดือนพ.ค.นี้ ไม่มีชื่อหุ้น COM7 ติดโผอย่างที่คาด

บริษัท คอมเซเว่น (COM7) เปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2565 อนุมัติโครงการซื้อหุ้น (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน ภายในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกิน 1.25% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.-29 พ.ย.2565

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิ 783.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 565.60 ล้านบาท โดยบริษัทฯมีรายได้รวม 14,682.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นรายได้จาการขายและบริการ จำนวน 14,645.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% เนื่องจากสถานการณ์สินค้าขาดตลาด ประกอบกับสถานการณ์โควิด19 เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคต่อสินค้าไอทีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการดําเนินกลยุทธ์ในการบริหารจัดการสินค้า ทั้งการกระจายสินค้า และการสํารองสินค้าเพื่อให้เพียงพอต่อการจําหน่ายในทุกช่องทาง โดยเฉพาะสินค้าเปิดตัวใหม่ จึงผลักดันให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นในทุกกลุ่ม

ด้าน MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่มีผลการปรับน้ำหนัก วันที่ 31 พ.ค.2565 ไม่มีหุ้น COM7 เข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Standard Index จากที่โบรกเกอร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ามีโอกาสสูงที่จะถูกเลือกเข้าดัชนี

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า รายชื่อหุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Standard Index รอบใหม่มีจำนวน 1 บริษัท ได้แก่ JMT คาดเม็ดเงินราว 78 ล้านเหรียญฯ และ MSCI เลือก JMT เป็น 1 ใน 3 Top Buy ของ MSCI EM ASEAN คู่กับหุ้น INDONESIA 2 บริษัท คือ AMRT IJ, ADMR IJ

หุ้นไทยถูกถอดออกดัชนี ได่แก่ STGT คาดเม็ดเงินราว 32ล้านเหรียญฯ

ส่วนหุ้นไทยที่ถูกเพิ่มน้ำหนัก มี 4 บริษัท คือ BDMS, EA, OSP, BGRIM คิดเป็นเม็ดเงินราว +26 ถึง +6 ล้านเหรียญฯ ต่อบริษัท

หุ้นไทยที่ถูกลดน้ำหนัก มี 9 บริษัท คือ CPALL, PTT, RATCH, AOT, SCC, SAWAD, ADVANC, PTTEP, GULF ถูกลดน้ำหนัก -10 ถึง -4 ล้านเหรียญฯ ต่อบริษัท

ส่วนดัชนี MSCI Small Cap มีหุ้นเข้าใหม่ 10 บริษัท คือ ASK, BYD, DITTO, FORTH, KEX, PSG, SABUY, STGT(ตกชั้นมา), STARK, VIBHA ส่วนหุ้นออก คือ EASTW, JMT (ถูกเลื่อนชั้นสู่กระดานใหญ่)

กลยุทธ์ แนะนำซื้อลงทุน JMT เป้าหมาย 100 บาทและเก็งกำไรหุ้นถูกเพิ่มน้ำหนัก BDMS, OSP, EA, BGRIM

ด้านดัชนี MSCI EM ASIA ถูกลดน้ำหนักลงราว -0.01% เหลือ 78.03% คิดเป็นเงินไหลออก -24.6 ล้านเหรียญ โดยเป็นการลดน้ำหนัก INDIA -0.17% เหลือ 13.25%, TAIWAN -0.12% เหลือ 15.65%, S. KOREA -0.06% เหลือ 12.64%, MALAYSIA -0.03% เหลือ 1.56%

ประเทศที่ถูกเพิ่มน้ำหนัก ได้แก่ CHINA +0.34% สู่ 30.25% ตามมาด้วย INDONESIA +0.02%สู่ 1.94%, PHILIPPINES +0.01% สู่ 0.8%

ส่วนประเทศไทย น้ำหนักคงเดิม 1.94% คิดเป็น Net Inflow เล็กๆ 2 ล้านเหรียญ โดยในวันปรับน้ำหนักจะมี Basket ซื้อและขายปรับน้ำหนัก ราว 294 ล้านเหรียญ

อ่านข่าว

ลุ้น JMT-COM7-TIDLOR-BANPU เข้า MSCI Global Standard Index