BAM โชว์กำไร Q1/65 แตะ 312 ลบ. เติบโต 26%

HoonSmart.com>> “บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์” โชว์กำไรไตรมาส 1/65 เติบโต 26.22% แตะ 312 ล้านบาท กวาดรายได้เพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 แนวโน้มดีขึ้น

บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 กำไรสุทธิ 311.84 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.10 บาท เพิ่มขึ้น 26.22% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 247.05 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.08 บาท

บริษัทฯ มีรายได้ดอกเบี้ยในไตรมาส 1/2565 จำนวน 2,151 ล้านบาท ลดลง 16.8% เมื่อเทียบไตรมาสที่ผ่านมาและเพิ่มขึ้น 0.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้–ส่วนที่รับเงินแล้วในไตรมาส 1/2565 จำนวน 493 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% จากไตรมาสก่อนหน้าและ 59.0% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2564

นอกจากนี้รับรู้รายไดด้อกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ตามเกณฑ์คงค้าง (Accrual Basis) และมีรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้มี่ยังไม่ได้รับชำระ (ส่วนที่ค้างรับ) ในไตรมาส 1/2565 จำนวน 1,020 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทฯ บันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตจากรายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้-ส่วนที่ค้างรับคู่กันไป เพื่อแสดงรายการผลกำไรจากการดำเนินงานให้สะท้อนตามข้อเท็จจริง

กำไรจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้จำนวน 615 ล้านบาท ลดลง 38.9% จากไตรมาสที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 3.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ ได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้โดยมีสัดส่วนการตัดชำระรายได้ดอกเบี้ยและต้นทุนเพิ่มขึ้นจึงรับรู้เป็นกำไรได้น้อยลงเมื่อเทียบกับงวดก่อนหน้า

ส่วนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจำนวน 620 ล้านบาท ลดลง 1.6% จากไตรมาสที่ผ่านมาและเพิ่มขึ้น 0.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืม 81 ล้านบาท ลดลง 16.5% จากไตรมาสที่ผ่านมาและ 47.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักมาจากบริษัทฯ ชำระคืนเงินกู้ที่ถึงกำหนดชำระในปี 2564

ในไตรมาส 1/2565 มีกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายแบบขายสด 411 ล้านบาท ลดลง 61.6% จากไตรมาสที่ผ่านมาและ 30.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ ขายทรัพย์สินรอการขายแบบขายสดได้ลดลง และมีการตัดชำระต้นทุนมากกว่าเมื่อเทียบกับงวดเดียวก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้รับรู้เป็นกำไรได้น้อยลงและในไตรมาสนี้ บริษัทฯ กำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายแบบขายผ่อนชำระจำนวน 78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.4% จากไตรมาสที่ผ่านมา และ 116.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายแบบผ่อนชำระมากขึ้น เนื่องจากการขายแบบผ่อนชำระเติบโตขึ้นตามกลยุทธ์และโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย

นอกจากนี้บริษัทฯ บันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นทั้งหมดจำนวน 1,058 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากบันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ 1,061 ล้านบาท แบ่งออกเป็นเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้-ดอกเบี้ยค้างรับจำนวน 1,020 ล้านบาท และตั้งเพิ่มจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ตามคุณภาพหนี้จำนวน 41 ล้านบาท