“คิงส์ฟอร์ด” แนะทยอยซื้อ 5 กลุ่มหลักบริเวณ 1,580–1,600 จุด

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มหุ้นปรับฐานลงระดับ 1,600 จุด ตามตลาดหุ้นทั่วโลก กังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยกระทบเศรษฐกิจชะลอตัว แนะทยอยซื้อ กลุ่มธนาคาร, สื่อสาร, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, โรงกลั่น บริเวณดัชนี 1,580 – 1,600 จุด มีลุ้นรีบาวด์ หุ้นแนะนำวันนี้ EPG-SHR

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ปรับฐานสู่ระดับ 1,600 +/- คิดเป็น Forward P/E ที่ 17.4X ส่งผลให้ Valuation เริ่มถูกลง แนะนำทยอยซื้อหุ้นกลุ่มหลัก เช่น ธนาคาร, สื่อสาร, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, โรงกลั่น บริเวณดัชนี 1,580 – 1,600 จุด ซึ่งเป็นระดับที่คาดมีโอกาสรีบาวน์ จาก Downside Risk ลดลง

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากความกังวลเฟดเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยจนส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว หลัง GDP สหรัฐ Q1/65 หดตัว -1.40% QoQขณะที่วิกฤตรัสเซีย – ยูเครนยืดเยื้อและจีนใช้มาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าต่าง ๆ สูงขึ้น และห่วงโซ่อุปทานการผลิตขาดช่วง ยังเป็นปัจจัยเร่งให้เงินเฟ้อทั่วโลกอยู่ระดับสูง แรงขายส่วนใหญ่อยู่ในหุ้นกลุ่ม Growth , เทคโนโลยีผันผวนเชิงลบต่อดอกเบี้ยสูงขึ้น และการเริ่มลดขนาดงบดุลเฟดมูลค่า 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ใน มิ.ย.

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -2.9% ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากความกังวล มาตรการล็อกดาวน์จีนและวิกฤตรัสเซีย – ยูเครนกระทบต่อเศรษฐกิจเยอรมันที่มีสัดส่วนใหญ่สุดในยูโรโซน และมีแนวโน้ม ECB จะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยใน ก.ค. เพื่อสกัด หลังเงินเฟ้อยูโรโซน เม.ย. +7.5% YoY เป็นระดับสูงสุด กอปรอังกฤษกังวลเศรษฐกิจหดตัวในปีหน้า

ประเด็นสำคัญวันพุธนี้รอ CPI สหรัฐ เม.ย. คาด +8.1% &มี.ค.+8.5% YoY ซึ่งส่งผลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14 – 15 มิ.ย. รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่ 3 ท่าน โดย 2 ท่านมีแนวคิดเชิง Hawkish

หุ้นแนะนำวันนี้ EPG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 14.30 บาท) หนึ่งในหุ้นกลุ่ม Anti-Oil ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบปรับฐาน เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันของจีนลดลง 4.8% ในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. หลังจากที่จีนประกาศล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ และบางส่วนของกรุงปักกิ่ง

ด้านแนวโน้มผลประกอบการ 4Q64/65 (ม.ค.-มี.ค.) ทรงตัวได้ดีทั้ง QoQ, YoY แม้ถูกกดดันจากต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ได้รับการชดเชยจากยอดขายกลุ่มฉนวน Aeroflex ที่ฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์ COVID คลี่คลาย อีกทั้งได้ผลบวกจากการเพิ่มกำลังการผลิต และการปรับราคาขาย

ส่วนกลุ่มบรรจุภัณฑ์ EPP ฟื้นตัวรับการเปิดประเทศ ขณะที่กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ Aeroklas ชะลอตัวลงบ้าง เพราะยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนชิป และสถานการณ์ด้านการขนส่ง

หุ้น SHR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.28 บาท) สำหรับการดำเนินงานช่วงถัดไปคาดหวังการฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง แม้จะมี Omicron กดดันอยู่บ้าง แต่คาดว่าผลกระทบจะน้อยกว่า Delta โดยพอร์ตโรงแรมที่มีสัดส่วนอยู่ใน UK จำนวนมาก(สัดส่วนรายได้ราว 35% ในช่วงปกติ) เป็นประเทศที่ประชากรได้ฉีดวัคซีน Covid-19 ประเทศแรกๆ และปัจจุบันมีการยกเลิกม.ควบคุมทั้งหมดแล้ว

ขณะที่คาดว่ารร.ใน Maldives(สัดส่วนรายได้ราว 30% ในช่วงปกติ) จะฟื้นตัวได้ดีจากจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยในช่วง 01 ม.ค.65 – 25 เม.ย.65 มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 5.5แสนคน(+46.7%YoY และเมื่อเทียบกับ norm ในปี2019 -10.6%) ด้านรร.ในไทย(สัดส่วนรายได้ราว 20% ในช่วงปกติ) รับปัจจัยบวกจากการ Reopening ตั้งแต่พ.ย.64 และมีการยกเลิกม.ควบคุมมาอย่างต่อเนื่อง