ROH ฟื้น ขาดทุนแค่ 26 ลบ. Q1/65 บล.ทิสโก้เชียร์ MINT-ERW

HoonSmart.com>> โรงแรมรอยัล ออคิดฯ เปิดผลงานไตรมาส 1/65 ขาดทุนเพียง 26 ล้านบาท ดีขึ้น 46%จากปีก่อน รายได้รวม 148.90 ล้านบาท พุ่งขึ้น 626% ได้ดอกเบี้ยมาช่วย 86 ล้านบาท และควบคุมค่าใช้จ่าย ด้านบล.ทิสโก้ แนะนำซื้อ ERW ให้ราคา  3.90 บาท เเป้า MINT 41 ล้านบาท แม้ไมเนอร์ ฯ ขาดทุนมากขึ้นในช่วง 3 เดือนแรก ตามฤดูกาล EU/LATAM ยอดขายอาหารในจีนลดจากโควิด เพิ่มน้ำหนัก 4 หุ้นโรงแรม จะดีขึ้นครึ่งปีหลัง

บริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) หรือ ROH เปิเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 1/2565 ขาดทุนสุทธิ 26 ล้านบาท ดีขึ้น ประมาณ 45.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุนถึง 48 ล้านบาท

ผลงานที่ดีขึ้นมาจากรายได้รวม 148.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 626.32% จากปีก่อนทำได้จำนวน 20.50 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือรายได้ดอกเบี้ยจำนวน 86 รองลงมาเป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเป็นจำนวน 40 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 22.9 ล้านบาท เป็นส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยที่มีรายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นมาจากสถาณการณ์ที่ดีขึ้น รวมถึงมีมาตรการต่างๆของรัฐบาล เช่นTest & Go, เราเที่ยวด้วยกันเป็นต้น บริษัทยังคงมีค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับพนักงานเป็นหลัก โดยรวมค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ผันแปรตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นแต่บริษัทได้ควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ขาดทุนลดลง

ด้านบล.ทิสโก้แนะนำให้ “ซื้อ ” MINT และ ERW โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 41.00 บาท และ 3.90 บาท เพิ่มน้ำหนักกลุ่มโรงแรมมากกว่าตลาด (OVERWEIGHT) ตามการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เชื่อว่าน่าจะเห็นผลประกอบการดีขึ้นโดยเฉพาะในครึ่งปีหลัง ยังคงแนะนำ “ซื้อ” MINT และอัปเกรด CENTEL/ERW จาก “ถือ” เป็น “ซื้อ ” ราคาหุ้นโรงแรมของเราได้เพิ่มขึ้น 10-12% AWC ยังคงทรงตัว เชื่อว่า ในระยะกลางโรงแรมจะดูดีจากธีมการฟื้นตัวพร้อมกำไรกลายเป็นบวก

โรงแรมไทยยังฟื้นตัวไม่เต็มที่จากโควิด อัตราการเข้าพักในไตรมาส 1 รายงานโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา อยู่ที่ 35.6% เพิ่มขึ้นจาก 26.3% ในไตรมาสที่ 4/2564 (QoQ)จากฐานที่่ต่ำในเดือน ต.ค. – พ.ย. พร้อมการเปิดประเทศ อย่างไรก็ตาม อัตราการเข้าพักในช่วงเดือน ม.ค. – มี.ค .2565 เทียบเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ทรงตัว

4 โรงแรมที่วิเคราะห์ คาดขาดทุนหลัก 2,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น QoQ จากที่มีกำไรจำนวน 1,160 ล้านบาท เพราะ MINTพลิกกลับมาขาดทุน  เนื่องจากโรงแรมใน EU/LATAM ได้รับผลกระทบจากฤดูกาล  ควบคู่ไปกับการแพร่ระบาดของโอมิครอน ส่งผลให้ประสิทธิภาพการดำเนินงานอ่อนแอ สำหรับออสเตรเลียยังคงเห็นมัลดีฟส์แข็งแกร่งส่วน กลุ่มอาหารของ MINT คาดได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงในจีน หากไม่รวม MINT โรงแรมดีขึ้นสอดคล้องกับอัตราการ
เข้าพักโรงแรมในไทยที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังคงการคาดการณ์ทั้งปี 2565 ตามเดิม เชื่อว่าโรงแรมใน EU/LATAM ควรกลับสู่ปกติเร็วที่สุดหลังจากโอมิครอนจบลง โรงแรมในไทยควรค่อยๆ ฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวขาเข้าจากสหรัฐฯ/สหภาพยุโรป ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากเอเชียน่าจะเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ส่วนนักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาในช่วงต้นปี 2566 ผลกระทบของโอมิครอน (กระทบร้านอาหารในจีน และในสหภาพยุโรป) คาดว่าจะเห็นความเสี่ยงด้านลบเล็กน้อยต่อการประมาณการของ MINT ในปี 2565 นอกจากนี้ได้ปรับประมาณการ CENTEL งวดไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นและคาดว่ามี upside ต่อประมาณการ 2565 ส่วน AWC และ ERW ไม่เปลี่ยนแปลง

บล.เอเซียพลัส วิเคราะห์ว่าการยกเลิกการใช้ “ThailandPass” ในกลุ่มคนไทย ที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยจะเริ่มจากคนไทย แล้วค่อยขยายไปสู่ชาวต่างชาติ ที่จะมีการพิจารณาขอให้ยกเลิกการใช้ “Thailand Pass” ในระยะถัดไป ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มเปิดเมือง ท่องเที่ยวโรงแรม สายการบิน ได้แก่ MINT,CENTEL,ERW,AAV, AOT และห้างสรรพสินค้า  CPN,CRC