HoonSmart.com>>”บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล” สุดยอด เข้าเทรดวันแรก 5 พ.ค. ปิดไฮ 9.20 บาท แจกกำไรสูงถึง 148.65 % วอลุ่มแน่น 5,630 ล้านบาท ผู้บริหารโชว์จุดแข็งรอบด้าน ทีมผู้บริหารคลุกวงใน AMC ร่วม 20 ปี ฐานทุนแกร่งปีนี้ซื้อหนี้ 800 ล้านบาทหนุนโตกว่าเท่าตัว อัตรากำไรสุทธิสูงกว่า 30% คู่แข่งน้อย โฟกัสพอร์ตธุรกิจ-ที่อยู่อาศัย มีหนี้ด้อยคุณภาพให้ซื้อ 4 แสนล้านบาท เผยชื่อ 3 นักลงทุนรายใหญ่ซื้อ IPO
บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล (KCC) ถือฤกษ์ดี 5 เดือน 5 เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เปิดกระโดดที่ราคา 6.20 บาท และปิดที่จุดสูงสุดที่ 9.20 บาท พุ่งขึ้น 5.50 บาท แจกกำไรถึง 148.65% ให้กับคนจองซื้อที่ 3.70 บาท ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายกว่า 5,630 ล้านบาท
นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล (KCC) กล่าวว่า บริษัทฯมีจุดแข็งหลายด้าน คณะผู้บริหารมีความชำนาญในการซื้อหนี้มานาน 20 ปี มีต้นทุนการดำเนินงานค่อนข้างต่ำ ทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2564 มีอัตรากำไรสุทธิ 37% นอกจากนี้ บริษัทยังมีหนี้ต่ำ สัดส่วนหนี้สินต่อทุน( D/E ) เพียง 0.63 เท่า ต่ำกว่าที่บริษัทกำหนดไว้ไม่เกิน 2 เท่า ปัจจุบันแม้ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ก็ไม่กระทบต่อผลการดำเนินงาน เนื่องจากบริษัทมีหนี้หุ้นกูัอายุ 1 ปีครึ่ง กำหนดดอกเบี้ยคงที่ ส่วนสินเชื่อจากสถาบันการเงิน อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ก็คิดอัตราลอยตัวกับลูกค้า
ด้านคู่แข่งทางธุรกิจ AMC ในระบบมีจำนวนมาก แต่การแข่งขันไม่รุนแรง เนื่องจากมี Active ประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น เทียบกับหนี้ของสถาบันการเงินที่นำออกมาขายหลยแสนล้านบาท และบริษัทยังโฟกัสเฉพาะหนี้ของธุรกิจ และที่อยู่อาศัย ซึ่งมีผู้ประกอบการรายหลักๆ ไม่มาก ส่วนระยะเวลาในการบริหารหนี้ธุรกิจ อยู่ในช่วง 5-7 ปี หนี้ที่อยู่อาศัยประมาณ 5 ปี
” KCC เป็นหุ้นเติบโตสูง และมีการจ่ายเงินปันผลด้วย แผนปีนี้มีเป้าหมายนำเงิน IPO ซื้อหนี้ NPLs จำนวน 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทะลุ 1,000 ล้านบาทจากพอร์ตสิ้นปีก่อนมีจำนวน 565 ล้านบาท เน้นสินเชื่อธุรกิจ ประมาณ 70% และที่อยู่อาศัย 30% จะรักษาการเติบโตให้อยู่ระดับสูงอย่างต่อเนื่อง จากฐานทุนที่แข็งแรงขึ้น ในปีนี้คาดว่าสถาบันการเงินจะนำ NPL ออกมาขาย 5 แสนล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ธุรกิจจำนวน 3 แสนล้านบาท หนี้ที่อยู่อาศัย 1 แสนล้านบาท ทำให้การแข่งขันไม่รุนแรงอย่างที่เข้าใจ”นายทวีกล่าว
นาย วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น กล่าวว่า KCC มีจุดเด่น การปรับโครงสร้างหนี้ธุรกิจ ทำให้มีกำไรขั้นต้นประมาณ 85-90% สนับสนุนการเติบโตกำไรสุทธิโตเกือบ 40% อาศัยความชำนาญของผู้บริหารในการปรบโครงสร้างหนี้ รายได้มาจากดอกเบี้ยของหนี้ที่ปรับโครงสร้าง และกำไรจากหนี้ที่ซื้อมา
ด้านบริษัท เปิดเผยโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ วันที่ 28 เม.ย. 2565 มีนาย สุชาติ บุญบรรเจิดศรี ถือหุ้นใหญ่ที่สุด สัดส่วน 45.82% ตามด้วย นาย ทวี กุลเลิศประเสริฐ ถือ 22.32% นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนรายใหญ่ เช่น นายนเรศ งามอภิชน ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 5 จำนวน 2 ล้านหุ้น สัดส่วน 0.32% นาย ปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ประธานกรรมการบริหารบริษัท สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ถืออันดับที่ 9 จำนวน 1.23 ล้านหุ้น สัดส่วน 0.20 % และนาง วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ ถืออันดับที่ 10 จำนวน 1.2 ล้านหุ้น สัดส่วน 0.19% ของทุนเรียกชำระแล้ว