HoonSmart.com>>สภาธุรกิจตลาดทุนไทยส่งจดหมายถึงรมว.คลัง เสนอความเห็นและค้านการเก็บภาษีขายหลักทรัพย์เป็นทางการ แฉภาษีแพงกว่าค่าคอมมิชชั่น สภาพคล่องหายไปกระทบนักลงทุน 17ล้านคน ควรยกเว้นมาร์เก็ตเมคเกอร์
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (5พ.ค.2565) ได้ส่งหนังสือเป็นทางการถึง รมว.คลัง เสนอความเห็นและข้อเสนอเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ 0.1%ของมูลค่าขายหลักทรัพย์ในตลาดตั้งแต่บาทแรก โดยให้ความเห็น 5 ข้อ โดยเฉพาะเรื่อง สภาพคล่องที่จะลดลง จะกระทบเป็นลูกโซ่ และส่งผลกระทบในวงกว้าง ตอนนี้ไม่ได้มองเพียงนักลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้น 2 ล้านหุ้นเท่านั้น แต่มองถึง 17 ล้านคนที่ลงทุนทางอ้อมผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น กองทุนรวมด้วย
นอกจากนี้ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีขาย จะกระทบต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงควรจะยกเว้นการเก็บภาษีขายกับมาร์เก็ตเมคเกอร์ ที่มีธุรกิจ 12-17% ของมูลค่าขายในตลาด เพราะทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง โดยไม่หวังกำไร ซึ่งต่างประเทศ ไม่เก็บภาษี
นายไพบูลย์กล่าวว่า อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ 0.1% ถูกกำหนดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 ตอนนั้นอัตราค่าคอมิชชันคงที่ 0.5% แต่การแข่งขันในปัจจุบัน ค่าคอมมิชชันอยู่ที่ 0.08% เมื่อรวมภาษีขายและภาษีท้องถิ่นอีก 0.01% รวม 0.11% จะสูงกว่า 0.7 เท่า ของค่าคอมมิชชันในปัจจุบัน ส่งผลต่อการตัดสินใจต่อการซื้อขายไทยลำบาก
” เราส่งจดหมายทางการเป็นครั้งแรก จากที่ผ่านมาเสนอผ่านการพูดคุยเท่านั้น ซึ่งหากรมว.คลังยังคงยืนยันว่าจะเก็บภาษีขายหลักทรัพย์ เราต้องปฎิบัติตาม แต่ห่วงเรื่องผลกระทบในวงกว้างที่จะตามมา” นายไพบูลย์กล่าว